ธัมมโชติ รวมธรรมะน่าสนใจจากพระไตรปิฎกด้วยภาษาง่ายๆ เพื่อคนรุ่นใหม่
การหลุดพ้นหรือความไม่ยึดมั่นในสิ่งทั้งปวงนั้น เป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญของพระพุทธศาสนานะครับ แต่ความไม่ยึดมั่นนั้นเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง ยากที่คนทั่วไปจะรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของความไม่ยึดมั่นถือมั่นได้อย่างแท้จริง จนทำให้บางคนเกิดอาการยึดที่จะไม่ยึดขึ้นมา แล้วเข้าใจผิดคิดว่านั่นคือการไม่ยึดมั่นนะครับ
จะขอเล่าเรื่องประกอบเรื่องหนึ่งนะครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเพื่อให้เข้าใจเรื่องการยึดมั่นหรือไม่ยึดมั่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนี้ครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ณ สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง (รายละเอียดบางส่วนอาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2538 นะครับ) ที่สำนักฯ แห่งนี้จะเน้นมากในเรื่องการไม่ยึดมั่นถือมั่น มีผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ 3 คนครับ ขอใช้นามสมมติดังนี้คือ
- ภิกษุ ก. เป็นผู้ที่บวช ณ สำนักฯ แห่งนี้ ได้รับการยอมรับนับถือให้เป็นผู้สอนธรรมเป็นอันดับที่สอง รองจากเจ้าสำนักฯ
- ภิกษุ ข. พึ่งมาจากที่อื่นได้ไม่นานครับ
- อุบาสก มาทำกรรมฐานที่สำนักฯ แห่งนี้เป็นวันแรก
เย็นวันนั้นภิกษุ ก. เป็นผู้ทำหน้าที่ปูอาสนะสำหรับนั่งทำวัตรเย็นครับ และภิกษุ ก. ได้ปูอาสนะสีเหลือง (เช่นเดียวกับที่ปูให้ภิกษุ) ไว้ให้อุบาสกนั่งด้วยครับ
ครั้นถึงเวลาทำวัตรเย็น
ภิกษุ ข. พูดกับอุบาสก : อุบาสก ! หยิบอาสนะสีเทามาปูนั่งด้วย
ภิกษุ ก. : ไม่ต้องหยิบมาหรอก ปูอาสนะเหลืองไว้ให้แล้ว
ภิกษุ ข. : สีเหลืองเป็นสีของพระ อุบาสกนั่งไม่ได้
ภิกษุ ก. : จะมายึดอะไรกับสี สีก็เป็นเพียงสี ใช้สีเหลืองดีแล้ว ถ้าใช้สีเทาก็เป็นการยึดในสีน่ะสิ
ภิกษุทั้งสองรูปจึงโต้เถียงกันพักใหญ่ โดยภิกษุ ข. พยายามยืนยันว่าสีเหลืองเป็นสีของพระ อุบาสกใช้อาสนะสีเหลืองไม่ได้ ในขณะที่ภิกษุ ก. พยายามใช้เหตุผลว่าถ้าใช้สีอื่นก็แสดงว่ายึดมั่นถือมั่นในสี เพราะฉะนั้นต้องใช้สีเหลืองจึงจะแสดงว่าไม่ยึดมั่น แต่เนื่องจากในสำนักฯ แห่งนี้ สถานภาพของภิกษุ ก. เป็นที่ยอมรับมากกว่า ในที่สุดภิกษุ ข. ก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ครับ
วิเคราะห์
จะเห็นได้ว่าภิกษุ ข. นั้น มีความยึดมั่นถือมั่นในสีอย่างชัดเจนนะครับ ส่วนภิกษุ ก. นั้นดูคล้ายกับว่าไม่มีความยึดมั่นถือมั่น แต่ความจริงแล้วภิกษุ ก. นั้นก็มีความยึดมั่นเช่นเดียวกันนะครับ แต่เป็นความยึดมั่นถือมั่นในขั้นที่สอง คือยึดมั่นว่าจะต้องไม่ยึดมั่น จึงไม่ยอมให้ใช้สีอื่นนอกจากสีเหลืองผู้ที่ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นอย่างแท้จริงนั้น จะต้องมีใจที่เสมอเหมือนกันหมดไม่ว่าจะใช้สีใดๆ ก็ตามนะครับ จะต้องไม่มีความรู้สึกที่แตกต่างกันเลย จะต้องมีใจที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง ไม่ยึดมั่นแม้กระทั่งในความไม่ยึดมั่น และไม่มีแม้กระทั่งความคิดว่าจะไม่ยึดมั่นถือมั่นนะครับ เพราะในที่สุดแล้วจะทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่นในความคิดอันนั้นขึ้นมาอีก ซึ่งจะเป็นความยึดมั่นที่ละเอียดอ่อนมาก ยากที่จะรู้สึกถึงความยึดมั่นอันนี้ได้ครับ จนกว่าจะพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นในระดับนี้ไปแล้วจริงๆ
ท่านเว่ยหลาง หรือท่านฮุ่ยเน้ง (สังฆนายกองค์ที่ 6 แห่งนิกายเซ็น ในประเทศจีน) ได้กล่าวถึงสภาวะของจิต ที่พ้นจากความยึดมั่นถือมั่นเอาไว้ว่า
"เมื่อเราใช้มัน (จิต/ความคิด) มันแทรกเข้าไปได้ในทุกสิ่ง แต่ไม่ติดแจอยู่ในสิ่งใดเลย"
ธัมมโชติ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น