Google Analytics 4

ร่วมแชร์เป็นธรรมทานนะครับ

พระวักกลิ-ผู้หลุดพ้นด้วยศรัทธา

ธัมมโชติ รวมธรรมะน่าสนใจจากพระไตรปิฎกด้วยภาษาง่ายๆ เพื่อคนรุ่นใหม่

หน้านี้เป็นตัวอย่างการบรรลุธรรมของพระวักกลิ ผู้หลุดพ้นด้วยศรัทธานะครับ

ย่อความจากพระไตรปิฎก พระสุตตันตปิฎก เล่ม 25 ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2


วักกลิเถราปทานสูตร


(ดูเปรียบเทียบกับพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ที่ เล่ม : ๓๓ หน้า : ๒๔๓ ข้อ : ๔๖)

[๑๒๒] ... (ท่านพระวักกลิเถระได้เล่าประวัติของท่านเองดังนี้ครับ) ...

(เรา - คือท่านพระวักกลิเถระ) ได้เกิดในสกุลหนึ่งในพระนครสาวัตถี มารดาของเราถูกภัยปีศาจคุกคาม มีใจหวาดกลัว จึงให้เราผู้ละเอียดอ่อนเหมือนเนยข้น นุ่มนิ่มเหมือนใบไม้อ่อนๆ ซึ่งยังนอนหงาย ให้นอนลงแทบบาทมูลของพระผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ กราบทูลว่า ข้าแต่พระโลกนาถ หม่อมฉันขอถวาย ทารกนี้แด่พระองค์ ข้าแต่พระโลกนายก ขอพระองค์จงทรงเป็นที่พึ่งของเขาด้วยเถิด

ครั้งนั้น สมเด็จพระมุนีผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์ผู้หวาดกลัว พระองค์ได้ทรงรับเราด้วยฝ่าพระหัตถ์อันอ่อนนุ่ม มีตาข่ายอันท่านกำหนดด้วยจักร (คือมีลายรูปกงจักรที่ฝ่าพระหัตถ์นะครับ - ธัมมโชติ)

จำเดิมแต่นั้นมา เราก็เป็นผู้ถูกรักษาโดยพระพุทธเจ้า จึงเป็นผู้พ้นจากความป่วยไข้ทุกอย่าง อยู่โดยสุขสำราญ เราเว้นจากพระสุคตเสียเพียงครู่เดียวก็กระสัน (คืออยากเห็นพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา เพราะติดใจในรูปโฉมของพระองค์นะครับ - ธัมมโชติ) พออายุได้ ๗ ขวบ เราก็ออกบวชเป็นบรรพชิต เราเป็นผู้ไม่อิ่มด้วยการดูพระรูปอันประเสริฐ เกิดพระบารมีทุกอย่าง มีดวงตาสีเขียว ล้วนเกลื่อนกล่นไปด้วยวรรณสันฐานอันงดงาม

ครั้งนั้น พระพิชิตมารทรงทราบว่า เรายินดีในพระพุทธรูป จึงได้ตรัสสอนเราว่า อย่าเลยวักกลิ ประโยชน์อะไรในรูปที่น่าเกลียดซึ่งชนพาลชอบเล่า ก็บัณฑิตใดเห็นสัทธรรม บัณฑิตนั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ไม่เห็นสัทธรรม ถึงจะเห็นเราก็ชื่อว่าไม่เห็น กายมีโทษไม่สิ้นสุด เปรียบเสมอด้วยต้นไม้มีพิษ เป็นที่อยู่ของโรคทุกอย่าง ล้วนเป็นที่ประชุมของทุกข์ เพราะฉะนั้น ท่านจงเบื่อหน่ายในรูป พิจารณาเห็นความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย จักถึงที่สุดแห่งสรรพกิเลสได้โดยง่าย

เราอันสมเด็จพระโลกนายกผู้แสวงหาประโยชน์พระองค์นั้น ทรงพร่ำสอนอย่างนี้ ได้ขึ้นภูเขาคิชฌกูฏ เพ่งดูอยู่ที่ซอกเขา พระพิชิตมารผู้มหามุนีประทับยืนอยู่ที่เชิงเขา เมื่อจะทรงปลอบโยนเรา (ที่กำลังเศร้าโศกเสียใจ เพราะพระองค์ทรงขับไล่ เนื่องจากติดในพระรูปของพระองค์เพียงอย่างเดียว ไม่สนใจเจริญกรรมฐานนะครับ >>> ว่ากันว่า ท่านเสียใจถึงขนาดจะไปกระโดดเขาตายเลยครับ เพราะคิดว่าถ้าไม่ได้ดูพระรูปของพระพุทธเจ้าแล้ว จะอยู่ต่อไปเพื่อประโยชน์อะไร ฆ่าตัวตายดีกว่า - ธัมมโชติ)

ได้ตรัสเรียกว่า วักกลิ เราได้ฟังพระดำรัสนั้นเข้าก็เบิกบาน ครั้งนั้น เราวิ่งลงไปที่เงื้อมเขาสูงหลายร้อยชั่วบุรุษ แต่ถึงแผ่นดินได้โดยสะดวกทีเดียวด้วยพุทธานุภาพ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรมเทศนา คือ ความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปแห่งขันธ์ ทั้งหลายอีก เรารู้ธรรมนั้นทั่วถึงแล้ว จึงได้บรรลุอรหัต (เป็นพระอรหันต์ - ธัมมโชติ)

... เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

จบวักกลิเถราปทาน.

>>>>> พระวักกลิรูปนี้ได้รับการรับรองจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุสาวกของพระองค์ทั้งหลายในด้านเป็นผู้พ้นจากกิเลสได้ด้วยศรัทธาครับ (พระไตรปิฎก พระสุตตันตปิฎก เล่ม 12 อังคุตตรนิกาย ข้อ 147 แต่ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะอยู่ใน เล่ม : ๒๐ หน้า : ๒๗ ข้อ : ๒๐๘ นะครับ)

ผู้รวบรวม
ธัมมโชติ

1 ความคิดเห็น :

  1. พระวักกลิ ท่านคงเห็นพระพุทธองค์เป็นเสมือนมารดา เพราะท่านขาดเเม่ต้ังเเต่ยังเเบเบาะ
    ยังคิดเลยค่ะว่า ถ้าหากเป็นเราเป็นเเบบท่าน จะเป้นอย่างไร จะบรรลุธรรมเหมือนท่านหรือไม่?

    ตอบลบ