Google Analytics 4

ร่วมแชร์เป็นธรรมทานนะครับ

เล่มที่ ๓๒-๗ หน้า ๓๕๓ - ๔๑๑

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒-๗ สุตตันตปิฎกที่ ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑



พระสุตตันตปิฎก
ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๑๙. กุฏชปุปผิยวรรค] ๗. เอกจินติกเถราปทาน
[๓๕] ท่านผู้เจริญ ท่านจากที่นี้ จงไปสู่สุคติ
อยู่ร่วมกับมนุษย์ เป็นมนุษย์แล้ว
จงได้ศรัทธาที่ยอดเยี่ยมในพระสัทธรรม
[๓๖] ศรัทธาของท่านผู้ตั้งมั่น
เป็นศรัทธาที่หยั่งรากลงลึกดำรงมั่น
ไม่คลอนแคลนในพระสัทธรรม
ที่พระอริยะประกาศดีแล้วจนตลอดชีวิต
[๓๗] ท่านจงทำกุศลที่ไม่เบียดเบียน ไม่มีอุปธิ
ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ให้มากเถิด
[๓๘] แต่นั้น ท่านสั่งสมบุญแล้ว
จงทำบุญนั้นให้มากด้วยการให้ทาน
จงแนะนำแม้สัตว์เหล่าอื่นให้ตั้งอยู่
ในพรหมจรรย์ ในพระสัทธรรมเถิด
[๓๙] ด้วยความอนุเคราะห์นี้ ในกาลใด เหล่าเทวดาผู้รู้
จึงพลอยยินดีกับเทวดา ผู้ซึ่งกำลังจุติว่า
นี่แน่ะเทวะ ขอท่านจงมาบ่อย ๆ นะ
[๔๐] ในกาลนั้น เมื่อหมู่เทวดามาประชุมกัน
ข้าพเจ้าเกิดความสลดใจว่า ข้าพเจ้าจุติจากที่นี้แล้ว
จักไปสู่กำเนิดอะไรหนอ
[๔๑] ท่านสมณะผู้อบรมอินทรีย์แล้ว
รู้ความสลดใจของข้าพเจ้า
ประสงค์จะช่วยเหลือข้าพเจ้า
จึงมายังสำนักของข้าพเจ้า
[๔๒] ท่านมีนามว่าสุมนะเป็นสาวก
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
พร่ำสอนอรรถธรรม ให้ข้าพเจ้าสลดใจ ในครั้งนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๕๓ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๑๙. กุฏชปุปผิยวรรค] ๘. ติกัณณิปุปผิยเถราปทาน
[๔๓] ข้าพเจ้าได้ฟังคำของท่านแล้ว
ทำจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า
ได้ถวายอภิวาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วได้สิ้นชีวิตลง ณ ที่นั้น
[๔๔] ข้าพเจ้านั้น ถูกกุศลมูลตักเตือนแล้ว
ได้อุบัติในเทวโลกนั้นเอง
ไม่ไปเกิดในทุคติเลยตลอด ๑๐๐,๐๐๐ กัป
[๔๕] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระเอกจินติกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เอกจินติกเถราปทานที่ ๗ จบ
๘. ติกัณณิปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระติกัณณิปุปผิยเถระ
(พระติกัณณิปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๖] ข้าพเจ้าเป็นเทวดา มีเหล่านางเทพอัปสรห้อมล้อม
ระลึกถึงบุพกรรมแล้ว
จึงหวนระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด
[๔๗] ข้าพเจ้าทำจิตของตนให้เลื่อมใส
ได้ประคองดอกอัญชัน ๓ ดอก
บูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ผู้องอาจกว่านรชน
[๔๘] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๕๔ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๑๙. กุฏชปุปผิยวรรค] ๙. เอกจาริยเถราปทาน
[๔๙] ในกัปที่ ๗๓ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๔ ชาติ พระนามว่ารมุตตมะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๕๐] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระติกัณณิปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ติกัณณิปุปผิยเถราปทานที่ ๘ จบ
๙. เอกจาริยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระเอกจาริยเถระ
(พระเอกจาริยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๕๑] ครั้งนั้น ได้มีเสียงประกาศกึกก้องในหมู่เทวดาชั้นดาวดึงส์ว่า
พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานในโลก
แต่พวกเรายังมีราคะอยู่
[๕๒] บรรดาเทวดาผู้เกิดความสังเวช
ผู้มากไปด้วยความเศร้าโศกเหล่านั้น
ข้าพเจ้าถูกกำลังของตนอุปถัมภ์แล้ว
ได้ไปในสำนักของพระพุทธเจ้า
[๕๓] ข้าพเจ้าถือดอกมณฑารพที่เนรมิต
รวบรวมไว้ไปบูชาพระพุทธเจ้า
ในเวลาใกล้จะปรินิพพาน
[๕๔] ครั้งนั้น เทวดาและนางเทพอัปสรทั้งปวง
อนุโมทนาต่อข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจึงไม่ไปเกิดในทุคติเลยตลอด ๑๐๐,๐๐๐ กัป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๕๕ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๑๙. กุฏชปุปผิยวรรค] ๑๐. ติวัณฏิปุปผิยเถราปทาน
[๕๕] ในกัปที่ ๖๐,๐๐๐ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ชาติ
พระนามว่ามหามัลลชนะ มีพลานุภาพมาก
[๕๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระเอกจาริยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เอกจาริยเถราปทานที่ ๙ จบ
๑๐. ติวัณฏิปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระติวัณฏิปุปผิยเถระ
(พระติวัณฏิปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๕๗] พวกข้าพเจ้าทุกคนนั้นมาประชุมกัน
เพ่งโทษพระเถระชื่อว่าอภิภู
ความเร่าร้อนได้เกิดขึ้นแก่พวกข้าพเจ้า ผู้เพ่งโทษ
[๕๘] ครั้งนั้น พระเถระมีนามว่าสุนันทะ
เป็นสาวกของพระมุนีพุทธเจ้าพระนามว่าธัมมทัสสี
มาในสำนักของข้าพเจ้า
[๕๙] ครั้งนั้น ชนทั้งหลายที่เป็นคนรับใช้ของข้าพเจ้า
ได้ให้ดอกไม้แก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าได้ถือดอกไม้นั้นไปบูชาสาวก
[๖๐] ข้าพเจ้า ได้สิ้นชีวิตลง ณ ที่นั้นแล้ว ก็กลับมาเกิดอีก
ไม่ตกวินิบาตนรกเลยตลอด ๑๑๘ กัป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๕๖ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๑๙. กุฏชปุปผิยวรรค] รวมอปทานที่มีในวรรค
[๖๑] ในกัปที่ ๑๑๓ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๘ ชาติ
พระนามว่าธูมเกตุ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๖๒] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระติวัณฏิปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ติวัณฏิปุปผิยเถราปทานที่ ๑๐ จบ
กุฏชปุปผิยวรรคที่ ๑๙ จบบริบูรณ์
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. กุฏชปุปผิยเถราปทาน ๒. พันธุชีวกเถราปทาน
๒. โกฏุมพริยเถราปทาน ๔. ปัญจหัตถิยเถราปทาน
๕. อิสิมุคคทายกเถราปทาน ๖. โพธิอุปัฏฐายกเถราปทาน
๗. เอกจินติกเถราปทาน ๘. ติกัณณิปุปผิยเถราปทาน
๙. เอกจาริยเถราปทาน ๑๐. ติวัณฏิปุปผิยเถราปทาน

ท่านประกาศคาถาไว้ ๖๒ คาถา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๕๗ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๑. ตมาลปุปผิยเถราปทาน
๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค
หมวดว่าด้วยพระตมาลปุปผิยะเป็นต้น
๑. ตมาลปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระตมาลปุปผิยเถระ
(พระตมาลปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑] วิมานของข้าพเจ้ามีเสาทองคำ ๘๔,๐๐๐ ต้น
เปรียบได้กับไม้เท้าเทวดา
บุญกรรมเนรมิตไว้ดีแล้ว
[๒] ข้าพเจ้ามีใจผ่องใส
ได้ประคองดอกคูนบูชาพระพุทธเจ้า พระนามว่าสิขี
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก
[๓] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๔] ในกัปที่ ๒๐ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าจันทติตตะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๕] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระตมาลปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ตมาลปุปผิยเถราปทานที่ ๑ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๕๘ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๒. ติณสันถารทายกเถราปทาน
๒. ติณสันถารทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระติณสันถารทายกเถระ
(พระติณสันถารทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๖] ในกาลที่ข้าพเจ้าเป็นฤๅษีอยู่ในป่า
เกี่ยวหญ้าถวายพระศาสดา
หญ้าทั้งหมดนั้นเวียนไปทางขวาแล้วตกลงที่แผ่นดิน
[๗] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าถือหญ้านั้นมาลาดที่เนินดิน
และนำใบตาลมา ๓ ใบ
[๘] มาทำเป็นหลังคาบนไม้ ๓ อัน
ได้ถวายพระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายในที่นั้น
ถือทรงไว้เพื่อพระศาสดาตลอด ๗ วัน
[๙] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายหญ้าไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายหญ้า
[๑๐] ในกัปที่ ๖๕ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๔ ชาติ พระนามว่ามหัทธนะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๑] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระติณสันถารทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ติณสันถารทายกเถราปทานที่ ๒ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๕๙ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๓. ขัณฑผุลลิยเถราปทาน
๓. ขัณฑผุลลิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระขัณฑผุลลิยเถระ
(พระขัณฑผุลลิยเถระ เมื่อประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๒] พระสถูปของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าผุสสะ
ได้มีอยู่ในป่ามหาวัน
ในครั้งนั้น ต้นไม้ก็งอกขึ้น
โขลงช้างพากันมาหักราน
[๑๓] ข้าพเจ้าทำที่ขรุขระให้ราบเรียบแล้วได้ใส่ก้อนปูนขาว
ยินดีด้วยคุณของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
ผู้เป็นที่เคารพของโลกทั้ง ๓
[๑๔] ในกัปที่ ๙๒ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการใส่ก้อนปูนขาว
[๑๕] ในกัปที่ ๗๗ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ชาติ พระนามว่าชิตเสนะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระขัณฑผุลลิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ขัณฑผุลลิยเถราปทานที่ ๓ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๐ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๔. อโสกปูชกเถราปทาน
๔. อโสกปูชกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอโสกปูชกเถระ
(พระอโสกปูชกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๗] ครั้งนั้น ได้มีพระราชอุทยานอยู่ในนครติปุระ น่ารื่นรมย์
ข้าพเจ้าเป็นคนรักษาพระราชอุทยานอยู่ในนครนั้น
เป็นคนรับใช้ของพระราชา
[๑๘] ได้มีพระสยัมภูพุทธเจ้า ผู้มีพระรัศมี พระนามว่าปทุมะ
พระฉายาไม่ละพระองค์ผู้เป็นมุนี
ผู้ประทับนั่งอยู่บนดอกบัวขาว
[๑๙] ข้าพเจ้าเห็นต้นอโศกมีดอกบานเป็นพวง น่าดูนัก
จึงบูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้ประเสริฐ
[๒๐] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๒๑] ในกัปที่ ๗๐ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ชาติ พระนามว่าอรณัญชหะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๒๒] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอโสกปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อโสกปูชกเถราปทานที่ ๔ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๑ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๖. กิสลยปูชกเถราปทาน
๕. อังโกลกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอังโกลกเถระ
(พระอังโกลกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๓] ข้าพเจ้าเห็นต้นปรู มีดอกบานสะพรั่ง
มีดอกสวยงามเป็นพวง
จึงได้เก็บดอกไม้นั้นไปยังสำนักของพระพุทธเจ้า
[๒๔] สมัยนั้น พระมหามุนีพระนามว่าสิทธัตถะ ทรงหลีกเร้นอยู่
ข้าพเจ้าจึงรอคอยชั่วครู่หนึ่งแล้ว โปรยดอกไม้ลงในถ้ำ
[๒๕] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๒๖] ในกัปที่ ๓๖ นับแต่ภัทรกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าเทวคัชชิตะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๒๗] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอังโกลกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อังโกลกเถราปทานที่ ๕ จบ
๖. กิสลยปูชกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระกิสลยปูชกเถระ
(พระกิสลยปูชกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๘] สวนดอกไม้ของข้าพเจ้าได้มีอยู่ในกรุงทวารวดี
ในสวนดอกไม้นั้นเอง มีบ่อน้ำและต้นไม้ขึ้นงอกงาม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๒ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๖. กิสลยปูชกเถราปทาน
[๒๙] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ
ผู้กล้าแข็งด้วยกำลังของพระองค์ ไม่ทรงพ่ายแพ้
พระองค์เมื่อจะทรงอนุเคราะห์ข้าพเจ้า จึงเสด็จไปในอากาศ
[๓๐] ข้าพเจ้าไม่เห็นอะไร ๆ อื่นที่ควรจะบูชาพระองค์
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
เห็นแต่ใบอ่อนของต้นอโศก
จึงจับโยนขึ้นไปบนอากาศ
[๓๑] ใบอ่อนเหล่านั้น ตามไปเบื้องพระปฤษฎางค์
ของพระพุทธเจ้า ซึ่งกำลังเสด็จไป
ข้าพเจ้าเห็นดังนั้นแล้ว จึงตื่นเต้นว่า
ช่างน่าอัศจรรย์ ความโอฬารของพระพุทธเจ้า
[๓๒] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ใบไม้อ่อนบูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๓๓] ในกัปที่ ๒๗ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าเอกิสสระ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๓๔] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระกิสลยปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
กิสลยปูชกเถราปทานที่ ๖ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๓ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๗. ตินทุกทายกเถราปทาน
๗. ตินทุกทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระตินทุกทายกเถระ
(พระตินทุกทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๕] ข้าพเจ้าเป็นลิง มีกำลังแข็งแรง
เที่ยวไปตามซอกภูเขาและลำธาร
ได้เห็นต้นมะพลับออกผล
จึงหวนระลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐที่สุด
[๓๖] ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี
ออกค้นหาพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ
ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
ทรงถึงที่สุดภพทั้ง ๓ ตลอด ๒-๓ วัน
[๓๗] พระศาสดาผู้ยอดเยี่ยมในโลก
ทรงทราบความดำริของข้าพเจ้าแล้ว
จึงเสด็จมายังสำนักของข้าพเจ้า
พร้อมด้วยพระขีณาสพหลายพันรูป
[๓๘] ข้าพเจ้าเกิดความปราโมทย์แล้ว
ถือผลไม้เข้าไปถวาย พระผู้มีพระภาคผู้สัพพัญญู
ประเสริฐกว่าเจ้าลัทธิทั้งหลาย ทรงรับไว้แล้ว
[๓๙] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายผลไม้ไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้
[๔๐] ในกัปที่ ๕๗ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่าอุปนันทะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๔ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๘. คิริเนลมุฏฐิปูชกเถราปทาน
[๔๑] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระตินทุกทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ตินทุกทายกเถราปทานที่ ๗ จบ
๘. คิริเนลมุฏฐิปูชกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระคิริเนลมุฏฐิปูชกเถระ
(พระคิริเนลมุฏฐิปูชกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๒] พระผู้มีพระภาคชินเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้เจริญที่สุดในโลก
ทรงองอาจกว่านรชน ทรงตั้งความเพียร
เพื่อทรงอนุเคราะห์หมู่ชนผู้เกิดในภายหลัง
[๔๓] ข้าพเจ้าจึงใช้ดอกอัญชันเขียวกำมือหนึ่ง
บูชาพระพุทธเจ้า พระองค์นั้น
ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์ ผู้คงที่
ซึ่งกำลังเสด็จจงกรมอยู่
[๔๔] ด้วยจิตที่เลื่อมใสนั้น ข้าพเจ้าถูกกุศลมูลตักเตือนแล้ว
จึงไม่ไปเกิดในทุคติเลยตลอด ๓๐,๐๐๐ กัป
[๔๕] ในกัปที่ ๑๒๓ (นับจากกัปนี้ไป)
ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าสุเนละ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๔๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระคิริเนลมุฏฐิปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
คิริเนลมุฏฐิปูชกเถราปทานที่ ๘ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๕ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๙. ติกัณฑิปุปผิยเถราปทาน
๙. ติกัณฑิปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระติกัณฑิปุปผิยเถระ
(พระติกัณฑิปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๗] พระผู้มีพระภาคผู้สยัมภูชินเจ้า
ผู้ไม่ทรงพ่ายแพ้ พระนามว่าสุมังคละ
เสด็จออกจากป่าใหญ่ เข้าไปยังนคร
[๔๘] พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นมุนีพระองค์นั้น
เสด็จเที่ยวบิณฑบาตแล้ว
เสด็จออกจากนคร ทรงทำภัตกิจเสร็จ
แล้วประทับอยู่ในราวป่า
[๔๙] ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี
ได้ประคองดอกคล้า ๓ ดอก บูชาพระพุทธเจ้า
ผู้เป็นสยัมภู ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[๕๐] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๕๑] ในกัปที่ ๘๖ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่าอปเสลา
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๕๒] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระติกัณฑิปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ติกัณฑิปุปผิยเถราปทานที่ ๙ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๖ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] ๑๐. ยูถิกปุปผิยเถราปทาน
๑๐. ยูถิกปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระยูถิกปุปผิยเถระ
(พระยูถิกปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๕๓] พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้ควรรับเครื่องบูชา ทรงมีจักษุ
เสด็จออกจากป่าใหญ่ ดำเนินไปยังวิหาร
[๕๔] ข้าพเจ้าใช้มือทั้ง ๒ ประคองดอกคัดเค้าชั้นดี
บูชาพระพุทธเจ้า
ผู้มีพระหทัยประกอบด้วยเมตตา ผู้คงที่
[๕๕] ด้วยจิตที่เลื่อมใสนั้น
ข้าพเจ้าเสวยสมบัติแล้ว
ไม่ไปเกิดในทุคติเลยตลอด ๑๐๐,๐๐๐ กัป
[๕๖] ในกัปที่ ๕๐ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าสมิตนันทนะ
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๕๗] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระยูถิกปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ยูถิกปุปผิยเถราปทานที่ ๑๐ จบ
ตมาลปุปผิยวรรคที่ ๒๐ จบบริบูรณ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๗ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๐. ตมาลปุปผิยวรรค] รวมอปทานที่มีในวรรค รวมวรรคได้ ๑๐ วรรค
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. ตมาลปุปผิยเถราปทาน ๒. ติณสันถารทายกเถราปทาน
๓. ขัณฑผุลลิยเถราปทาน ๔. อโสกปูชกเถราปทาน
๕. อังโกลกเถราปทาน ๖. กิสลยปูชกเถราปทาน
๗. ตินทุกทายกเถราปทาน ๘. คิริเนลมุฏฐิปูชกเถราปทาน
๙. ติกัณฑิปุปผิยเถราปทาน ๑๐. ยูถิกปุปผิยเถราปทาน

และมีคาถา ๕๘ คาถา
อนึ่ง รวมวรรคได้ ๑๐ วรรค คือ

๑. ภิกขทายิวรรค ๒. มหาปริวารวรรค
๓. เสเรยยวรรค ๔. โสภิตวรรค
๕. ฉัตตวรรค ๖. พันธุชีวกวรรค
๗. สุปาริจริยวรรค ๘. กุมุทวรรค
๙. กุฏชปุปผิยวรรค ๑๐. ตมาลปุปผิยวรรค

ท่านทำไว้ใน ๑๐ วรรคนี้มีคาถา ๖๖๖ คาถา
หมวด ๑๐ แห่งวรรคมีภิกขทายิวรรคเป็นต้น จบ
๑๐๐ เรื่อง หมวดที่ ๒ จบบริบูรณ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๘ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๑. กณิการปุปผิยเถราปทาน
๒๑. กณิการปุปผิยวรรค
หมวดว่าด้วยพระกณิการปุปผิยะเป็นต้น
๑. กณิการปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระกณิการปุปผิยเถระ
(พระกณิการปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเห็นต้นกรรณิการ์
มีดอกบานสะพรั่ง
จึงเก็บมาบูชาพระผู้มีพระภาคพระนามว่าติสสะ
ผู้ข้ามโอฆะได้แล้ว ผู้คงที่
[๒] ในกัปที่ ๙๒ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๓] ในกัปที่ ๓๕ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏพระนามว่าอรุณปาละ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๔] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระกณิการปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้
กณิการปุปผิยเถราปทานที่ ๑ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๖๙ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๒. มิเนลปุปผิยเถราปทาน
๒. มิเนลปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระมิเนลปุปผิยเถระ
(พระมิเนลปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๕] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิขี
มีพระฉวีวรรณดังทองคำ
มีพระรัศมีเฉิดฉายดังดวงอาทิตย์
มีพระทัยประกอบด้วยเมตตา มีพระสติ เสด็จขึ้นที่จงกรม
[๖] ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี
ชมเชยพระญาณที่ล้ำเลิศแล้ว
จึงได้ประคองดอกเทียนขาวบูชาพระพุทธเจ้า
[๗] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๘] ในกัปที่ ๒๙ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่าสุเมฆฆนะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๙] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระมิเนลปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้
มิเนลปุปผิยเถราปทานที่ ๒ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๐ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๓. กิงกณิกปุปผิยเถราปทาน
๓. กิงกณิกปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระกิงกณิกปุปผิยเถระ
(พระกิงกณิกปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๐] พระผู้มีพระภาคผู้สัพพัญญู ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
ผู้เช่นกับทองคำมีค่า ทรงร้อนพระวรกาย
จึงเสด็จลงน้ำ สรงสนานอยู่
[๑๑] ข้าพเจ้ามีจิตเบิกบาน มีใจยินดี
จึงได้ประคองดอกกระดิ่งทองบูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี
ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์ ผู้คงที่
[๑๒] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๑๓] ในกัปที่ ๒๗ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าภีมรถ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๔] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระกิงกณิกปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้
กิงกณิกปุปผิยเถราปทานที่ ๓ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๑ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๔. ตรณิยเถราปทาน
๔. ตรณิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระตรณิยเถระ
(พระตรณิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๕] ก็พระผู้มีพระภาคพระนามว่าอัตถทัสสี
ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์ ทรงองอาจกว่านรชน
มีหมู่พระสาวกแวดล้อม เสด็จไปยังฝั่งแม่น้ำคงคา
[๑๖] แม่น้ำคงคามีน้ำเต็มเปี่ยมเสมอขอบฝั่ง
กาดื่มกินได้ ข้ามได้ยาก
ข้าพเจ้าพาพระพุทธเจ้าผู้สูงสุดแห่งเทวดาและมนุษย์
และหมู่ภิกษุส่งข้าม
[๑๗] ในกัปที่ ๑๑๘ (นับจากกัปนี้ไป)
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการพาพระพุทธเจ้าส่งข้าม(แม่น้ำ)
[๑๘] ในกัปที่ ๑๑๓ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕ ชาติ
พระนามว่าสัพโพภวะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๙] ในภพสุดท้าย ข้าพเจ้าเกิดในตระกูลพราหมณ์
ได้ออกบวชในศาสนาของพระศาสดา พร้อมกับสหาย ๓ คน
[๒๐] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระตรณิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ตรณิยเถราปทานที่ ๔ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๒ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๖. อุทกทายกเถราปทาน
๕. นิคคุณฑิปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระนิคคุณฑิปุปผิยเถระ
(พระนิคคุณฑิปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๑] ข้าพเจ้าเป็นคนวัดได้ประคองดอกย่านทรายบูชา
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี
[๒๒] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๒๓] ในกัปที่ ๓๕ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่ามหาปตาปะ
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๒๔] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระนิคคุณฑิปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
นิคคุณฑิปุปผิยเถราปทานที่ ๕ จบ
๖. อุทกทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอุทกทายกเถระ
(พระอุทกทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๕] ข้าพเจ้าได้เห็นพระผู้มีพระภาคผู้สงบ ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว เสวยอยู่
จึงได้ใช้หม้อตักน้ำถวายแด่พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๓ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๗. สลฬมาลิยเถราปทาน
[๒๖] วันนี้ ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่เศร้าหมอง
ปราศจากมลทิน สิ้นความสงสัย
ผลย่อมเกิดแก่ข้าพเจ้าในภพที่เกิดอยู่
[๒๗] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายน้ำไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายน้ำ
[๒๘] ในกัปที่ ๖๑ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าวิมล
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๒๙] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอุทกทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อุทกทายกเถราปทานที่ ๖ จบ
๗. สลฬมาลิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสลฬมาลิยเถระ
(พระสลฬมาลิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๐] ข้าพเจ้าได้เห็นพระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ
ผู้เป็นสารถีฝึกนรชน โชติช่วงดังดอกกรรณิการ์
ประทับนั่งในระหว่างภูเขา ทรงทำทิศทั้งปวงให้สว่างไสวอยู่
[๓๑] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้โก่งธนู พาดลูกศร
ยิงดอกไม้ตัดขั้วแล้วนำไปบูชาพระพุทธเจ้า
[๓๒] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๔ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๘. โกรัณฑปุปผิยเถราปทาน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๓๓] ในกัปที่ ๕๑ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าชุตินธระ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๓๔] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสลฬมาลิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สลฬมาลิยเถราปทานที่ ๗ จบ
๘. โกรัณฑปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระโกรัณฑปุปผิยเถระ
(พระโกรัณฑปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๕] ข้าพเจ้าได้เห็นรอยพระบาท
ซึ่งประดับด้วยเครื่องประดับคือจักร
ที่พระผู้มีพระภาคพระนามว่าวิปัสสี
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ทรงเหยียบไว้
จึงเดินตามรอยพระบาทไป
[๓๖] ข้าพเจ้าได้เห็นต้นหงอนไก่ มีดอกบาน
จึงนำไปบูชาพร้อมทั้งราก มีจิตร่าเริงเบิกบาน
จึงได้ไหว้รอยพระบาทที่ล้ำเลิศ
[๓๗] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๕ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๙. อาธารทายกเถราปทาน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๓๘] ในกัปที่ ๕๗ (นับจากกัปนี้ไป)
ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งพระนามว่าวีตมละ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๓๙] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระโกรัณฑปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
โกรัณฑปุปผิยเถราปทานที่ ๘ จบ
๙. อาธารทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอาธารทายกเถระ
(พระอาธารทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๐] ข้าพเจ้าถวายเชิงบาตรแด่พระผู้มีพระภาค
พระนามว่าสิขี ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก
ข้าพเจ้าได้ครองพื้นแผ่นดินนี้ไว้หมดทั้งสิ้น
[๔๑] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าทรงร่างกายอันมีในภพสุดท้าย
อยู่ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[๔๒] ในกัปที่ ๒๗ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๔ ชาติ
พระนามว่าสมันตวรณะ มีพลานุภาพมาก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๖ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] ๑๐. ปาปนิวาริยเถราปทาน
[๔๓] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอาธารทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อาธารทายกเถราปทานที่ ๙ จบ
๑๐. ปาปนิวาริยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระปาปนิวาริยเถระ
(พระปาปนิวาริยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๔] ก็ข้าพเจ้ามีจิตผ่องใส ได้ถวายร่มคันหนึ่ง
แด่พระผู้มีพระภาคพระนามว่าติสสะ
ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ ผู้คงที่
[๔๕] ข้าพเจ้ากั้นบาปแล้ว สร้างกุศลให้ถึงพร้อมแล้ว
เทวดาทั้งหลายก็ได้กั้นร่มไว้ในอากาศ
นี้เป็นผลแห่งบุพกรรม
[๔๖] จิตดวงสุดท้ายของข้าพเจ้าย่อมแล่นไป
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าทรงร่างกายอันมีในภพสุดท้าย
อยู่ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[๔๗] ในกัปที่ ๙๒ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายร่มไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายร่ม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๗ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๑. กณิการปุปผิยวรรค] รวมอปทานที่มีในวรรค
[๔๘] ในกัปที่ ๗๒ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๘ ชาติ
มีพระนามว่ามหานิทาน
ทรงเป็นใหญ่ในหมู่ชน
[๔๙] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระปาปนิวาริยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ปาปนิวาริยเถราปทานที่ ๑๐ จบ
กณิการปุปผิยวรรคที่ ๒๑ จบบริบูรณ์
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. กณิการปุปผิยเถราปทาน ๒. มิเนลปุปผิยเถราปทาน
๓. กิงกณิกปุปผิยเถราปทาน ๔. ตรณิยเถราปทาน
๕. นิคคุณฑิปุปผิยเถราปทาน ๖. อุทกทายกเถราปทาน
๗. สลฬมาลิยเถราปทาน ๘. โกรัณฑปุปผิยเถราปทาน
๙. อาธารทายกเถราปทาน ๑๐. ปาปนิวาริยเถราปทาน

มีคาถา ๔๘ คาถา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๘ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๑. หัตถิทายกเถราปทาน
๒๒. หัตถิวรรค
หมวดว่าด้วยพระหัตถิเป็นต้น
๑. หัตถิทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระหัตถิทายกเถระ
(พระหัตถิทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑] ข้าพเจ้าได้ถวายช้างเชือกซึ่งประเสริฐ มีงางอนงาม
ควรเป็นราชพาหนะแด่พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ
ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์ ผู้คงที่
[๒] ข้าพเจ้าบรรลุสันติบทอันเป็นประโยชน์สูงสุดซึ่งยอดเยี่ยม
เพราะข้าพเจ้าได้ถวายช้างแด่พระผู้มีพระภาค
ผู้แสวงหาประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกทั้งปวง
[๓] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายช้างไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายช้าง
[๔] ในกัปที่ ๗๘ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ชาติ
พระนามว่าสมันตปาสาทิกะ มีพลานุภาพมาก
[๕] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระหัตถิทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
หัตถิทายกเถราปทานที่ ๑ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๗๙ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๒. ปานธิทายกเถราปทาน
๒. ปานธิทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระปานธิทายกเถระ
(พระปานธิทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๖] ข้าพระองค์ได้ถวายรองเท้าแด่พระผู้มีพระภาค
ผู้ประทับอยู่ในป่า ทรงเข้าฌาน มีพระทัยประกอบด้วยเมตตา
มีเดช ทรงธรรม ทรงอบรมพระองค์แล้ว
[๗] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์
ผู้เจริญที่สุดในโลก ทรงองอาจกว่านรชน
ด้วยผลกรรมนั้น ข้าพระองค์จึงได้ใช้สอยยานทิพย์
นี้เป็นผลแห่งบุพกรรม
[๘] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพระองค์ได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายรองเท้าคู่หนึ่ง
[๙] ในกัปที่ ๗๗ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นกษัตริย์ผู้จักรพรรดิ ๘ ชาติ
พระนามว่าสุยานะ มีพลานุภาพมาก
[๑๐] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระปานธิทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ปานธิทายกเถราปทานที่ ๒ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๐ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๓. สัจจสัญญกเถราปทาน
๓. สัจจสัญญกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสัจจสัญญกเถระ
(พระสัจจสัญญกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๑] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าเวสสภู
มีหมู่ภิกษุแวดล้อม ทรงแสดงอริยสัจช่วยมหาชนให้สงบเย็น
[๑๒] ข้าพเจ้าถึงความเป็นคนน่าสงสารอย่างยิ่ง
ได้ไปสู่ที่ประชุม นั่งฟังธรรมของพระศาสดา
[๑๓] ข้าพเจ้าครั้นฟังธรรมของพระศาสดานั้นแล้ว
(ตายแล้ว)ได้ไปเกิดยังเทวโลก อยู่ในเทพบุรีนั้นตลอด ๓๐ กัป
[๑๔] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ความทรงจำไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งสัจจสัญญา(การได้ความทรงจำในสัจจะ)
[๑๕] ในกัปที่ ๒๖ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่าเอกผุสสิตะ
ทรงเป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๑๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสัจจสัญญกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สัจจสัญญกเถราปทานที่ ๓ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๑ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๕. รังสิสัญญกเถราปทาน
๔. เอกสัญญกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระเอกสัญญกเถระ
(พระเอกสัญญกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๗] ข้าพเจ้าได้เห็นผ้าบังสุกุลของพระศาสดา
คล้องอยู่บนยอดไม้ จึงได้ประคองอัญชลีไหว้ผ้าบังสุกุล
[๑๘] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ความทรงจำไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๑๙] ในกัปที่ ๒๕ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่าอมิตาภะ
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๒๐] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระเอกสัญญกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เอกสัญญกเถราปทานที่ ๔ จบ
๕. รังสิสัญญกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระรังสิสัญญกเถระ
(พระรังสิสัญญกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๑] พระพุทธเจ้าผู้มีพระรัศมีรุ่งเรืองดุจดวงอาทิตย์อุทัยและดวงจันทร์
องอาจดังเสือโคร่ง มีชาติตระกูลประเสริฐ
ประทับอยู่ในระหว่างภูเขา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๒ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๖. สันธิตเถราปทาน
[๒๒] อานุภาพของพระพุทธเจ้านั้น
รุ่งเรืองอยู่ในระหว่างภูเขา
ข้าพเจ้าทำจิตให้เลื่อมใสในพระรัศมีแล้ว
บันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดหนึ่งกัป
[๒๓] ในกัปที่เหลือ ข้าพเจ้าบำเพ็ญกุศลด้วยจิตที่เลื่อมใสนั้น
และด้วยการระลึกถึงพระพุทธเจ้า
[๒๔] ในกัปที่ ๓๐,๐๐๐ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ความทรงจำไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการได้ความทรงจำในพระพุทธเจ้า
[๒๕] ในกัปที่ ๕๗ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่าสุชาตะ
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๒๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระรังสิสัญญกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
รังสิสัญญกเถราปทานที่ ๕ จบ
๖. สันธิตเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสันธิตเถระ
(พระสันธิตเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๗] ข้าพเจ้าหวนระลึกขึ้น
ได้ความทรงจำอย่างหนึ่งซึ่งเป็นไปในพระพุทธเจ้า
ที่ต้นอัสสัตถพฤกษ์ มีประกายเขียวสด งอกงามดี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๓ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๗. ตาลวัณฏทายกเถราปทาน
[๒๘] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ความทรงจำไว้ในครั้งนั้น
เพราะอำนาจแห่งความทรงจำนั้น
ข้าพเจ้าจึงได้บรรลุความสิ้นอาสวะ
[๒๙] ในกัปที่ ๑๓ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าวนิทธะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๓๐] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสันธิตเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สันธิตเถราปทานที่ ๖ จบ
๗. ตาลวัณฏทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระตาลวัณฏทายกเถระ
(พระตาลวัณฏทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๑] ข้าพเจ้าได้ถวายพัดใบตาลแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ
ผู้ทรงมีทิพยจักษุ เพื่อต้องการให้ดับความร้อนในฤดูร้อน
เพื่อให้ความเร่าร้อนสงบไป
[๓๒] ข้าพเจ้าได้ดับไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ และไฟคือโมหะ
ที่ยิ่งกว่าความร้อนนั้นอย่างสนิท
นี้เป็นผลแห่งการถวายพัดใบตาล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๔ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๘. อักกันตสัญญกเถราปทาน
[๓๓] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าทรงร่างกายซึ่งมีในภพสุดท้าย
อยู่ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[๓๔] ในกัปที่ ๙๒ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายพัดใบตาล
[๓๕] ในกัปที่ ๖๓ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่ามหาราม
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๓๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระตาลวัณฏทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ตาลวัณฏทายกเถราปทานที่ ๗ จบ
๘. อักกันตสัญญกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอักกันตสัญญกเถระ
(พระอักกันตสัญญกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๗] ข้าพเจ้าหยิบผ้าสาฎกผืนน้อย(ผ้าปิดแผล)
ในผ้าห่มของพระอุปัชฌาย์
กำลังพร่ำศึกษามนตร์ เพื่อบรรลุวิชาสูญฝี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๕ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๘. อักกันตสัญญกเถราปทาน
[๓๘] ได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ผู้ปราศจากธุลีคือกิเลส
ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ผู้องอาจ ผู้ประเสริฐ ผู้ล้ำเลิศ
ผู้ตรัสรู้ดีแล้ว ดุจพญาคชสารตัวประเสริฐ
[๓๙] ผู้เป็นนรชนสูงสุด ผู้ล้ำเลิศ ทรงมีความเพียรมาก
ผู้เจริญที่สุดในโลก ทรงองอาจกว่านรชน
ทรงเหยียบผ้าสาฎกผืนน้อยที่ข้าพเจ้าลาดไว้
[๔๐] ครั้นข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์ผู้ส่องแสงสว่างในโลก
ปราศจากมลทิน ดังดวงจันทร์(ในวันเพ็ญ)
จึงได้ถวายอภิวาทพระบาทของพระศาสดาด้วยจิตที่ผ่องใส
[๔๑] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายผ้าสาฎกผืนน้อยไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผ้าสาฎกผืนน้อย
[๔๒] ในกัปที่ ๓๗ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่าสุนันทะ
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๔๓] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอักกันตสัญญกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อักกันตสัญญกเถราปทานที่ ๘ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๖ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] ๙. สัปปิทายกเถราปทาน
๙. สัปปิทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสัปปิทายกเถระ
(พระสัปปิทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๔] ข้าพเจ้านั่งอยู่ในปราสาทหลังประเสริฐ มีหมู่นารีแวดล้อม
ได้เห็นพระผู้มีพระภาค ผู้สงบ ทรงพระประชวร จึงนิมนต์เข้าบ้าน
[๔๕] พระองค์ผู้มีความเพียรมาก ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ
ทรงองอาจกว่านรชน เสด็จเข้าไปแล้ว
ข้าพเจ้าได้ถวายเนยใสและน้ำมันแด่พระพุทธเจ้า
พระนามว่าสิทธัตถะ ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[๔๖] ข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์มีความกระวนกระวายสงบระงับ
มีอินทรีย์คือพระพักตร์ผ่องใส
จึงถวายอภิวาทพระบาทของพระศาสดา แล้วให้ประกาศไปในนคร
[๔๗] พระวีรเจ้าผู้ถึงที่สุดแห่งฤทธิ์ ทรงเห็นข้าพเจ้าผู้เลื่อมใส
จึงเสด็จเหาะขึ้นสู่นภากาศ ดังพญาหงส์ในท้องฟ้า
[๔๘] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายทานไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายเนยใสและน้ำมัน
[๔๙] ในกัปที่ ๑๗ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่าทุติเทพ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๕๐] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสัปปิทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สัปปิทายกเถราปทานที่ ๙ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๗ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๒. หัตถิวรรค] รวมอปทานที่มีในวรรค
๑๐. ปาปนิวาริยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระปาปนิวาริยเถระ
(พระปาปนิวาริยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๕๑] ข้าพเจ้าแผ้วถางสถานที่จงกรมของพระผู้มีพระภาค
พระนามว่าปิยทัสสี มุงบังด้วยไม้อ้อ ป้องกันลมและแดด
[๕๒] ข้าพเจ้าบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อมเพื่อต้องการเว้นบาป
ตั้งความเพียรในศาสนาของพระศาสดาเพื่อละกิเลสทั้งหลาย
[๕๓] ในกัปที่ ๑๑ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ปรากฏนามว่าอัคคิเตชะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๕๔] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระปาปนิวาริยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ปาปนิวาริยเถราปทานที่ ๑๐ จบ
หัตถิวรรคที่ ๒๒ จบบริบูรณ์
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. หัตถิทายกเถราปทาน ๒. ปานธิทายกเถราปทาน
๓. สัจจสัญญกเถราปทาน ๔. เอกสัญญกเถราปทาน
๕. รังสิสัญญกเถราปทาน ๖. สันธิตเถราปทาน
๗. ตาลวัณฏทายกเถราปทาน ๘. อักกันตสัญญกเถราปทาน
๙. สัปปิทายกเถราปทาน ๑๐. ปาปนิวาริยเถราปทาน

มีคาถา ๕๔ คาถา ฉะนี้แล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๘ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๑. อาลัมพนทายกเถราปทาน
๒๓. อาลัมพนทายกวรรค
หมวดว่าด้วยพระอาลัมพนทายกะเป็นต้น
๑. อาลัมพนทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอาลัมพนทายกเถระ
(พระอาลัมพนทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑] ข้าพเจ้าได้ถวายราวสะพานแด่พระผู้มีพระภาค
พระนามว่าอัตถทัสสี ผู้เจริญที่สุดในโลก
ผู้คงที่ ทรงเป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์
[๒] ข้าพเจ้าปกครองแผ่นดินอันกว้างขวางจรดฝั่งสาคร
แผ่ความยิ่งใหญ่ไปในสัตว์ทั้งหลายและในแผ่นดิน
[๓] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
วิชชา ๓ ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
[๔] ในกัปที่ ๖๒ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓ ชาติ
พระนามว่าเอกาทัสสิตะ มีพลานุภาพมาก
[๕] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอาลัมพนทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อาลัมพนทายกเถราปทานที่ ๑ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๘๙ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๒. อชินทายกเถราปทาน
๒. อชินทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอชินทายกเถระ
(พระอชินทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๖] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าเป็นคนคอยต้อนรับหมู่คณะ ได้เห็นพระพุทธเจ้า
ผู้ปราศจากธุลีคือกิเลส ผู้สมควรรับเครื่องบูชา
[๗] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์
ผู้เจริญที่สุดในโลก ทรงองอาจกว่านรชน
ข้าพระองค์ได้ถวายแผ่นหนังแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก ด้วยผลกรรมนั้น
[๘] ข้าพเจ้าจึงได้เสวยสมบัติ เผากิเลสทั้งหลายได้แล้ว
ทรงร่างกายอันมีในภพสุดท้าย
อยู่ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[๙] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายหนังสัตว์ไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายหนังสัตว์
[๑๐] ในกัปที่ ๕๐ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ พระนามว่าสุทายกะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๑] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอชินทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อชินทายกเถราปทานที่ ๒ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๐ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๓. ทเวรตนิยเถราปทาน
๓. ทเวรตนิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระทเวรตนิยเถระ
(พระทเวรตนิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๒] เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเป็นนายพรานเนื้อ
ได้เห็นพระพุทธเจ้า ผู้ปราศจากธุลีคือกิเลส
ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ในป่าดงทึบ
[๑๓] ข้าพเจ้าจึงถวายชิ้นเนื้อแด่พระพุทธเจ้า
พระนามว่าวิปัสสี ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
ข้าพเจ้าได้เสวยอิสริยยศในโลก(นี้) พร้อมทั้งเทวโลก
[๑๔] ด้วยผลแห่งการถวายเนื้อนี้ รัตนะจึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า
รัตนะ ๒ ประการในโลกเกิดแก่ข้าพเจ้า เพื่อบรรลุธรรมในปัจจุบัน
[๑๕] เพราะผลแห่งการถวายเนื้อ ข้าพเจ้าเสวยรัตนะทั้งหมดนั้น
คือตัวของข้าพเจ้าอ่อนนุ่มและปัญญาของข้าพเจ้าก็ละเอียดลึกซึ้ง
[๑๖] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายเนื้อไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายเนื้อ
[๑๗] ในกัปที่ ๔ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่ามหาโรหิต
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๑๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระทเวรตนิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ทเวรตนิยเถราปทานที่ ๓ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๑ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๔. อารักขทายกเถราปทาน
๔. อารักขทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอารักขทายกเถระ
(พระอารักขทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๙] ข้าพเจ้าได้ให้สร้างแท่นไพที (ที่วางเครื่องสักการบูชา)
ถวายแด่พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ
และได้ถวายอารักขาแด่พระสุคต ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[๒๐] ด้วยผลกรรมพิเศษนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่เห็นภัยที่น่าหวาดเสียวเลย
ความสะดุ้งกลัวก็ไม่มีแก่ข้าพเจ้าผู้เกิดแล้วในภพไหน ๆ
[๒๑] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าให้สร้างแท่นไพทีไว้ในกาลก่อน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการสร้างแท่นไพทีถวาย
[๒๒] ในกัปที่ ๖ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่าอปัสเสน
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๒๓] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอารักขทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อารักขทายกเถราปทานที่ ๔ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๒ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๕. อัพยาธิกเถราปทาน
๕. อัพยาธิกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอัพยาธิกเถระ
(พระอัพยาธิกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๔] ข้าพเจ้าได้ถวายโรงไฟแด่พระผู้มีพระภาคพระนามว่าวิปัสสี
ได้ถวายที่อยู่และเครื่องรองรับน้ำร้อนแก่ภิกษุผู้อาพาธ
[๒๕] ผลกรรมนั้นได้เนรมิตอัตภาพของข้าพเจ้าไว้ดีแล้ว
ข้าพเจ้าจึงไม่รู้จักความเจ็บไข้เลย
นี้เป็นผลแห่งบุญกรรม
[๒๖] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายโรงไฟไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายโรงไฟ
[๒๗] ในกัปที่ ๗ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง ทรงเป็นใหญ่ในหมู่ชน
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๒๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอัพยาธิกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อัพยาธิกเถราปทานที่ ๕ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๓ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๖. วกุลปุปผิยเถราปทาน
๖. วกุลปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระวกุลปุปผิยเถระ
(พระวกุลปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๙] ชนทั้งหลายรู้จักชื่อข้าพเจ้าว่านารทะ
รู้จักข้าพเจ้าว่ากัสสปะ โดยโคตร
ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี
ผู้เลิศกว่าสมณะทั้งหลาย ซึ่งเทวดาสักการะแล้ว
[๓๐] ทรงไว้ซึ่งอนุพยัญชนะ ผู้สมควรรับเครื่องบูชา
ข้าพเจ้าจึงยกประคองดอกพิกุลขึ้นบูชาพระพุทธเจ้า
[๓๑] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๓๒] ในกัปที่ ๗๔ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นกษัตริย์พระนามว่าโรมสะ
ทรงเครื่องประดอกไม้
มียาน กำลังพล และพาหนะพรั่งพร้อม
[๓๓] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระวกุลปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
วกุลปุปผิยเถราปทานที่ ๖ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๔ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๗. โสวัณณวฏังสกิยเถราปทาน
๗. โสวัณณวฏังสกิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระโสวัณณวฏังสกิยเถระ
(พระโสวัณณวฏังสกิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าว
ว่า)
[๓๔] ข้าพเจ้าเดินอยู่ที่สวน ได้เห็นพระพุทธเจ้า
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก จึงได้ถือมาลัยประดับศีรษะ
ที่ทำด้วยทองคำ ซึ่งประดิษฐ์อย่างงดงาม
[๓๕] ขึ้นขี่ช้างรีบไปบูชาพระพุทธเจ้า
พระนามว่าสิขี ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก
[๓๖] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๓๗] ในกัปที่ ๒๗ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่ามหาปตาปะ
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[๓๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระโสวัณณวฏังสกิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
โสวัณณวฏังสกิยเถราปทานที่ ๗ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๕ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๙. สุกตาเวฬิยเถราปทาน
๘. มิญชวฏังสกิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระมิญชวฏังสกิยเถระ
(พระมิญชวฏังสกิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๙] เมื่อพระผู้มีพระภาคผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกพระนามว่าสิขี
ผู้ประเสริฐกว่าเจ้าลัทธิทั้งหลาย เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
ข้าพเจ้าได้ทำการบูชาต้นโพธิ์ที่ห้อยระย้าด้วยมาลัยประดับศีรษะ
[๔๐] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำการบูชาไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาต้นโพธิ์
[๔๑] ในกัปที่ ๒๖ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่าเมฆัพภะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๔๒] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระมิญชวฏังสกิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
มิญชวฏังสกิยเถราปทานที่ ๘ จบ
๙. สุกตาเวฬิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสุกตาเวฬิยเถระ
(พระสุกตาเวฬิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๓] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นช่างดอกไม้มีนามว่าอสิตะ
ได้ถือพวงมาลัยไปเพื่อน้อมเกล้าถวายแด่พระราชา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๖ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] ๑๐. เอกวันทนิยเถราปทาน
[๔๔] ยังไม่ทันถึงพระราชา ก็ได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี
ผู้ทรงเป็นผู้นำ ข้าพเจ้ามีจิตร่าเริง เบิกบาน
ได้ยกขึ้นบูชาพระพุทธเจ้า
[๔๕] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๔๖] ในกัปที่ ๒๕ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าเวภาระ
มีกำลังมาก มีพลานุภาพมาก
[๔๗] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสุกตาเวฬิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สุกตาเวฬิยเถราปทานที่ ๙ จบ
๑๐. เอกวันทนิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระเอกวันทนิยเถระ
(พระเอกวันทนิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๘] ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี
ได้ไหว้พระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐที่สุดพระนามว่าเวสสภู
ผู้องอาจ สามารถ มีความเพียร ทรงชำนะวิเศษ
[๔๙] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๗ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๓. อาลัมพนทายกวรรค] รวมอปทานที่มีในวรรค
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายอภิวาท
[๕๐] ในกัปที่ ๒๔ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่าวิกตานันทะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๕๑] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระเอกวันทนิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เอกวันทนิยเถราปทานที่ ๑๐ จบ
อาลัมพนทายกวรรคที่ ๒๓ จบบริบูรณ์
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. อาลัมพนทายกเถราปทาน ๒. อชินทายกเถราปทาน
๓. ทเวรัตนิยเถราปทาน ๔. อารักขทายกเถราปทาน
๕. อัพยาธิกเถราปทาน ๖. วกุลปุปผิยเถราปทาน
๗. โสวัณณวฏังสกิยเถราปทาน ๘. มิญชวฏังสกิยเถราปทาน
๙. สุกตาเวฬิยเถราปทาน ๑๐. เอกวันทนิยเถราปทาน

ท่านผู้เห็นประโยชน์ทั้งหลายคำนวณคาถาได้ ๕๕ คาถา ฉะนี้แล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๘ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] ๑. อุทกาสนทายกเถราปทาน
๒๔. อุทกาสนทายกวรรค
หมวดว่าด้วยพระอุทกาสนทายกะเป็นต้น
๑. อุทกาสนทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอุทกาสนทายกเถระ
(พระอุทกาสนทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑] ข้าพเจ้าออกจากประตูอารามแล้ว
ได้ลาดแผ่นกระดานสำหรับนั่งไว้
และได้ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้ เพื่อบรรลุประโยชน์สูงสุด
[๒] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการลาดอาสนะและตั้งน้ำไว้
[๓] ในกัปที่ ๑๕ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าอภิสามะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๔] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอุทกาสนทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อุทกาสนทายกเถราปทานที่ ๑ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๓๙๙ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] ๓. สาลปุปผิยเถราปทาน
๒. ภาชนทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระภาชนทายกเถระ
(พระภาชนทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๕] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นช่างหม้ออยู่ในกรุงพันธุมดี
ข้าพเจ้าได้แบ่งภาชนะถวายแด่ภิกษุสงฆ์ในกรุงนั้นเสมอ ๆ
[๖] ในกัปที่ ๙๑ (นับจากกัปนี้ไป)
ข้าพเจ้าได้แบ่งภาชนะถวายภิกษุสงฆ์ไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายภาชนะ
[๗] ในกัปที่ ๕๓ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่าอนันตชลิ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระภาชนทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ภาชนทายกเถราปทานที่ ๒ จบ
๓. สาลปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสาลปุปผิยเถระ
(พระสาลปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๙] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นคนทำขนมขายอยู่ในกรุงอรุณวดี
ข้าพเจ้าได้เห็นพระชินเจ้าพระนามว่าสิขี
กำลังเสด็จไปทางประตู(เรือน)ของข้าพเจ้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๐ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] ๔. กิลัญชทายกเถราปทาน
[๑๐] ข้าพเจ้ามีใจผ่องใสจึงรับบาตรของพระพุทธเจ้า
ซึ่งเสด็จมาถึงพอดีแล้วได้ถวายดอกสาละแด่พระองค์
[๑๑] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายดอกไม้ไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายดอกสาละ
[๑๒] ในกัปที่ ๑๔ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าอมิตัญชละ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๓] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสาลปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สาลปุปผิยเถราปทานที่ ๓ จบ
๔. กิลัญชทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระกิลัญชทายกเถระ
(พระกิลัญชทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๔] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นช่างจักสานอยู่ในติวรานคร น่ารื่นรมย์
หมู่ชนในนครนั้นเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ
ผู้ส่องโลกให้สว่าง
[๑๕] หมู่ชนเที่ยวแสวงหาเสื่อลำแพน
เพื่อบูชาพระผู้มีพระภาคผู้ทรงเป็นที่พึ่งของสัตว์โลก
ข้าพเจ้าได้ให้เสื่อลำแพนแก่หมู่ชนนั้นผู้ทำการบูชาพระพุทธเจ้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๑ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] ๕. เวทิทายกเถราปทาน
[๑๖] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายเสื่อลำแพน
[๑๗] ในกัปที่ ๗๗ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าชลันธระ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระกิลัญชทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
กิลัญชทายกเถราปทานที่ ๔ จบ
๕. เวทิทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระเวทิทายกเถระ
(พระเวทิทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๙] ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี
ได้ให้ช่างสร้างแท่นไพทีไว้ที่ต้นโพธิ์
ซึ่งเป็นต้นไม้ประเสริฐของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าวิปัสสี
[๒๐] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ให้ช่างสร้างแท่นไพทีไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการสร้างแท่นไพที
[๒๑] ในกัปที่ ๑๑ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าสูริยสมะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๒ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] ๖. วัณณการกเถราปทาน
[๒๒] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระเวทิทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เวทิทายกเถราปทานที่ ๕ จบ
๖. วัณณการกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระวัณณการกเถระ
(พระวัณณการกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๓] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นช่างทาสีอยู่ในกรุงอรุณวดี
ได้ระบายสีผ้าที่พระเจดีย์ให้มีสีต่าง ๆ
[๒๔] ในกัปที่ ๓๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ระบายสีผ้าไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการระบายสี
[๒๕] ในกัปที่ ๒๓ นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่าจันทสมะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๒๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระวัณณการกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
วัณณการกเถราปทานที่ ๖ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๓ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] ๘. อัมพยาคทายกเถราปทาน
๗. ปิยาลปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระปิยาลปุปผิยเถระ
(พระปิยาลปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๗] เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเป็นนายพรานเนื้อ
เที่ยวอยู่ในป่าดงทึบ เห็นต้นมะหาด
มีดอกบานสะพรั่ง จึงเก็บมาโปรยลงที่ทางเดิน
ข้าพเจ้ามีใจผ่องใส รับบาตรของพระพุทธเจ้า
ซึ่งกำลังเสด็จดำเนินอยู่ที่หนทาง
แล้วได้ถวายดอกมะหาดแด่พระองค์
[๒๘] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๒๙] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระปิยาลปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ปิยาลปุปผิยเถราปทานที่ ๗ จบ
๘. อัมพยาคทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอัมพยาคทายกเถระ
(พระอัมพยาคทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๐] ข้าพเจ้าเป็นผู้ฉลาดในศิลปะของตน ได้เข้าไปยังป่าดงทึบ
ได้เห็นพระพุทธเจ้ากำลังเสด็จดำเนินอยู่ จึงถวายผลมะม่วง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๔ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] ๙. ชคติการกเถราปทาน
[๓๑] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายทานไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผลมะม่วง
[๓๒] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอัมพยาคทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อัมพยาคทายกเถราปทานที่ ๘ จบ
๙. ชคติการกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระชคติการกเถระ
(พระชคติการกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๓] เมื่อพระผู้มีพระภาคผู้เป็นที่พึ่งของโลก
พระนามว่าอัตถทัสสี ทรงเป็นนรชนผู้สูงสุด
เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
ข้าพเจ้าได้ให้สร้างชานรอบพระสถูป
อันประเสริฐของพระพุทธเจ้า
[๓๔] ในกัปที่ ๑๑๘ (นับจากกัปนี้ไป)
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการสร้างชานรอบ
[๓๕] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระชคติการกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ชคติการกเถราปทานที่ ๙ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๕ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๔. อุทกาสนทายกวรรค] รวมอปทานที่มีในวรรค
๑๐. วาสิทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระวาสิทายกเถระ
(พระวาสิทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๓๖] เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเป็นช่างทองอยู่ในติวรานครที่ล้ำเลิศ
ข้าพเจ้าได้ถวายมีดเล่มหนึ่งแด่พระผู้มีพระภาค
ผู้เป็นพระสยัมภู ผู้ไม่ทรงพ่ายแพ้
[๓๗] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายมีดไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายมีด
[๓๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระวาสิทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
วาสิทายกเถราปทานที่ ๑๐ จบ
อุทกาสนทายกวรรคที่ ๒๔ จบบริบูรณ์
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. อุทกาสนทายกเถราปทาน ๒. ภาชนทายกเถราปทาน
๓. สาลปุปผิยเถราปทาน ๔. กิลัญชทายกเถราปทาน
๕. เวทิทายกเถราปทาน ๖. วัณณการกเถราปทาน
๗. ปิยาลปุปผิยเถราปทาน ๘. อัมพยาคทายกเถราปทาน
๙. ชคติการกเถราปทาน ๑๐. วาสิทายกเถราปทาน

และมีคาถา ๓๘ คาถา ฉะนี้แล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๖ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๕. ตุวรทายิวรรค] ๒. นาคเกสริยเถราปทาน
๒๕. ตุวรทายิวรรค
หมวดว่าด้วยพระตุวรทายิเป็นต้น
๑. ตุวรัฏฐิทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระตุวรัฏฐิทายกเถระ
(พระตุวรัฏฐิทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑] เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเป็นนายพรานเนื้อ
อาศัยอยู่ในป่าดงทึบ ข้าพเจ้าเห็นถั่วแดงนั้นแล้ว
จึงได้นำมาถวายแด่พระสงฆ์
[๒] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายทานไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายก้อนถั่วแดง
[๓] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระตุวรัฏฐิทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ตุวรัฏฐิทายกเถราปทานที่ ๑ จบ
๒. นาคเกสริยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระนาคเกสริยเถระ
(พระนาคเกสริยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔] ข้าพเจ้าโก่งสายธนูแล้ว เข้าไปยังท่ามกลางป่า
ได้เห็นต้นบุนนาคมีดอกเป็นพวง ขึ้นอยู่ใกล้ทางเดิน
[๕] จึงใช้มือทั้ง ๒ ประคอง
กระทำอัญชลีไว้เหนือเศียรเกล้าแล้ว
ได้บูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๗ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๕. ตุวรทายิวรรค] ๓. นฬินเกสริยเถราปทาน
[๖] ในกัปที่ ๙๒ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๗] ในกัปที่ ๗๗ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่าสโมกขรณะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระนาคเกสริยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
นาคเกสริยเถราปทานที่ ๒ จบ
๓. นฬินเกสริยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระนฬินเกสริยเถระ
(พระนฬินเกสริยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๙] ข้าพเจ้าเป็นนกกาน้ำ เที่ยวอยู่ในท่ามกลางสระธรรมชาติ
ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธเจ้า ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ
เสด็จเหาะไปในอากาศ
[๑๐] ข้าพเจ้ามีใจผ่องใส จึงใช้จะงอยปาก
คาบดอกบัวมาบูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก
[๑๑] ในกัปที่ ๙๒ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๘ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๕. ตุวรทายิวรรค] ๔. วิรวิปุปผิยเถราปทาน
[๑๒] ในกัปที่ ๗๓ (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่าสัตตปัตตะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีพลานุภาพมาก
[๑๓] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระนฬินเกสริยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
นฬินเกสริยเถราปทานที่ ๓ จบ
๔. วิรวิปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระวิรวิปุปผิยเถระ
(พระวิรวิปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๔] พระผู้มีพระภาคผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
เสด็จดำเนินไปพร้อมด้วยพระขีณาสพหลายพันรูป
ข้าพเจ้าได้ประคองดอกท้าวยายม่อมบูชาพระพุทธเจ้า
[๑๕] ในกัปที่ ๙๑ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๑๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระวิรวิปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
วิรวิปุปผิยเถราปทานที่ ๔ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๐๙ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๕. ตุวรทายิวรรค] ๖. ปัตตทายกเถราปทาน
๕. กุฏิธูปกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระกุฏิธูปกเถระ
(พระกุฏิธูปกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑๗] ข้าพเจ้าเป็นคนรักษาพระคันธกุฎีของพระผู้มีพระภาค
พระนามว่าสิทธัตถะ ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส
อบพระคันธกุฎีให้หอมด้วยมือทั้ง ๒ ของตน ตามกาลอันสมควร
[๑๘] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการอบพระกุฎี
[๑๙] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระกุฏิธูปกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
กุฏิธูปกเถราปทานที่ ๕ จบ
๖. ปัตตทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระปัตตทายกเถระ
(พระปัตตทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๐] ข้าพเจ้ามีการฝึกอย่างดีเยี่ยม
ได้ถวายบาตรแด่พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ผู้ซื่อตรง ผู้คงที่
[๒๑] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายทานไว้ในครั้งนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๑๐ }

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒๕. ตุวรทายิวรรค] ๗. ธาตุปูชกเถราปทาน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายบาตร
[๒๒] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระปัตตทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ปัตตทายกเถราปทานที่ ๖ จบ
๗. ธาตุปูชกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระธาตุปูชกเถระ
(พระธาตุปูชกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๒๓] เมื่อพระผู้มีพระภาคผู้ทรงเป็นที่พึ่งของโลก พระนามว่าสิทธัตถะ
ทรงเป็นนรชนผู้สูงสุด เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
ข้าพเจ้าได้พระธาตุองค์หนึ่งของพระผู้มีพระภาค
ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์ ผู้คงที่
[๒๔] ข้าพเจ้าได้เก็บพระธาตุของพระพุทธเจ้า
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งดวงอาทิตย์นั้นไว้บูชาตลอด ๕ ปี
เหมือนบำรุงพระองค์ผู้ทรงเป็นนรชนผู้สูงสุดซึ่งยังทรงพระชนม์อยู่
[๒๕] ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้บูชาพระธาตุไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบำรุงพระธาตุ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า :๔๑๑ }

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น