Google Analytics 4

ร่วมแชร์เป็นธรรมทานนะครับ

เล่มที่ ๓๙-๑ หน้า ๑ - ๕๔

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙-๑ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๖ ยมก ภาค ๒



พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร

พระอภิธรรมปิฎก
ยมก ภาค ๒
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จิตตยมก
อุทเทส
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๑. ปุคคลวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๑] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับ ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่กำลัง
ดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ
แต่จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด แต่
กำลังดับมีไหม (๖๓) *

เชิงอรรถ :
* ตัวเลข [๑] หมายถึงลำดับหัวข้อธรรม ส่วนตัวเลข (๖๓) หมายถึงข้อที่อธิบายในนิทเทสหน้า ๑๘

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
๒. อุปปาทุปปันนวาร

[๒] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๖๔)

๓. นิโรธุปปันนวาร

[๓] จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๖๕)

๔. อุปปาทวาร

[๔] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม (๖๖)
[๕] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๖๗)
[๖] จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๖๘)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
๕. นิโรธวาร

[๗] จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม (๖๙)
[๘] จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๗๐)
[๙] จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม (๗๑)

๖. อุปปาทนิโรธวาร

[๑๐] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม (๗๒)
[๑๑] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๗๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร

[๑๒] จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๗๔)

๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร

[๑๓] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๗๕)

๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร

[๑๔] จิตของบุคคลใดเกิดอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม (๗๖)

๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร

[๑๕] จิตของบุคคลใดดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม (๗๗)

๑๐. อุปปันนุปปาทวาร

[๑๖] จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วมีไหม (๗๘)
จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๗๙)

๑๑. อตีตานาคตวาร
[๑๗] จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคล
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด แต่จิตของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด แต่จิตของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๘๐)
๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร
[๑๘] จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่
เกิดแล้วใช่ไหม (๘๑)
๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร
[๑๙] จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่
ดับแล้วใช่ไหม (๘๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๒๐] จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของบุคคลนั้น
ล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม (๘๓)
อุทเทสแห่งปุคคลวาร จบ

๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๒. ธัมมวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๒๑] จิตใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับมีไหม (๘๔)
๒. อุปปาทุปปันนวาร

[๒๒] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๘๕)

๓. นิโรธุปปันนวาร

[๒๓] จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๘๖)

๔. อุปปาทวาร

[๒๔] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๘๗)
[๒๕] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๘๘)
[๒๖] จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๘๙)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
๕. นิโรธวาร

[๒๗] จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๙๐)
[๒๘] จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดจักดับ จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๙๑)
[๒๙] จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดจักดับ จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม (๙๒)

๖. อุปปาทนิโรธวาร

[๓๐] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๙๓)
[๓๑] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดจักดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๙๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

[๓๒] จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดจักดับ จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๙๕)

๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร

[๓๓] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๙๖)

๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร

[๓๔] จิตใดเกิดอยู่ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม (๙๗)

๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร

[๓๕] จิตใดดับอยู่ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม (๙๘)

๑๐. อุปปันนุปปาทวาร

[๓๖] จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๙๙)
จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๑๐๐)

๑๑. อตีตานาคตวาร

[๓๗] จิตใดเคยเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดจักเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๑๐๑)

๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร

[๓๘] จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม
จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๑๐๒)

๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร

[๓๙] จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม
จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับแล้วใช่ไหม (๑๐๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๔๐] จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป
ทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะ
ที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป
ทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป
ทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม (๑๐๔)
อุทเทสแห่งธัมมวาร จบ
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๓. ปุคคลธัมมวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๔๑] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับ
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่
กำลังดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ
แต่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด
แต่กำลังดับมีไหม (๑๐๕)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
๒. อุปปาทุปปันนวาร

[๔๒] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

(๑๐๖)
๓. นิโรธุปปันนวาร

[๔๓] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม

(๑๐๗)
๔. อุปปาทวาร

[๔๔] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

(๑๐๘)

[๔๕] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

(๑๐๙)

[๔๖] จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม(๑๑๐)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
๕. นิโรธวาร

[๔๗] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม

(๑๑๑)

[๔๘] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม

(๑๑๒)

[๔๙] จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม (๑๑๓)

๖. อุปปาทนิโรธวาร

[๕๐] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
[๕๑] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
[๕๒] จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร

[๕๓] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร

[๕๔] จิตใดของบุคคลใดเกิดอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม

๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร

[๕๕] จิตใดของบุคคลใดดับอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม

๑๐. อุปปันนุปปาทวาร

[๕๖] จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
๑๑. อตีตานาคตวาร
[๕๗] จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้น
ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของ
บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้น
ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร
[๕๘] จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่
เกิดแล้วใช่ไหม
๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร
[๕๙] จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม
จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่
ดับแล้วใช่ไหม
๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๖๐] จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้น
ของบุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นของ
บุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๒. สุตตันตจิตตมิสสกวิเสส
จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้น
ของบุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้น
ของบุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
อุทเทสแห่งปุคคลธัมมวาร จบ
๒. สุตตันตจิตตมิสสกวิเสส
[๖๑] จิตมีราคะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตปราศจากราคะของบุคคลใดกำลังเกิด ...
จิตมีโทสะของบุคคลใดกำลังเกิด ...
จิตปราศจากโทสะของบุคคลใดกำลังเกิด ...
จิตมีโมหะของบุคคลใดกำลังเกิด ...
จิตปราศจากโมหะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตหดหู่ของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตฟุ้งซ่านของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตเป็นมหัคคตะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตไม่เป็นมหัคคตะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตมีธรรมอื่นยิ่งกว่าของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตเป็นสมาธิของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตไม่เป็นสมาธิของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตหลุดพ้นแล้วของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตไม่หลุดพ้นแล้วของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ (๑๑๔)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] อุทเทส ๓. อภิธัมมจิตตมิสสกวิเสส
๓. อภิธัมมจิตตมิสสกวิเสส
[๖๒] จิตที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ
จิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาของบุคคลใดกำลังเกิด ...
(พึงยกบาลีอุทเทสโดยวิธีนี้ ตลอดจนถึงจิตที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้และที่ไม่เป็น
เหตุให้สัตว์ร้องไห้)
จิตที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตที่ไม่เป็น
เหตุให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
จิตที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตที่ไม่เป็นเหตุ
ให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๑๑๕)
อุทเทสแห่งมิสสกวาร จบ
อุทเทสวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
นิทเทส
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๑. ปุคคลวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๖๓] อนุโลมปุจฉา. จิตของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคล
นั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิสัชนา. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
ไม่ใช่กำลังดับ แต่จักดับ ไม่ใช่จักเกิด ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลนอกนี้
จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ แต่จักดับและจักเกิด
ปฏิโลมปุจฉา. จิตของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิสัชนา. ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักดับ แต่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด
แต่กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี
๒. อุปปาทุปปันนวาร
[๖๔] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่กำลังเกิด
ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้วก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่ไม่
เกิดแล้ว บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของ
บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๓. นิโรธุปปันนวาร
[๖๕] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่กำลังดับ
ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้วก็ใช่ กำลังดับก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นก็ไม่ใช่กำลังดับ แต่มิใช่
ไม่เกิดแล้ว บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของ
บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
๔. อุปปาทวาร
[๖๖] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
[๖๗] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่ไม่ใช่
จักเกิด ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลนอกนี้ จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดก็ใช่
จักเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่จักเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มิใช่
ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดก็ใช่ ไม่ใช่
กำลังเกิดก็ใช่
[๖๘] อนุ. จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดก็ใช่ จักเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
๕. นิโรธวาร
[๖๙] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งจิต
จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับก็ใช่ กำลังดับก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี
[๗๐] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่ไม่ใช่จักดับ
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลนอกนี้ จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับก็ใช่ จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งจิต
จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับก็ใช่ กำลังดับก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จักดับ
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. กำลังดับ
[๗๑] อนุ. จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่ไม่ใช่จักดับ
บุคคลนอกนี้ จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับก็ใช่ กำลังดับก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
๖. อุปปาทนิโรธวาร
[๗๒] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
[๗๓] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๗๔] อนุ. จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ไม่ใช่จักดับ
บุคคลนอกจากนี้ จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดก็ใช่ จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร
[๗๕] อนุ. จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด และไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ กำลังดับก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร
[๗๖] อนุ. จิตของบุคคลใดเกิดอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่เกิดอยู่
ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้วก็ใช่ เกิดอยู่ก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่เกิดอยู่ แต่มิใช่ไม่เกิด
แล้ว บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่เกิดอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร
[๗๗] อนุ. จิตของบุคคลใดดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่ดับอยู่
ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้วก็ใช่ ดับอยู่ก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ดับอยู่ แต่มิใช่ไม่
เกิดแล้ว บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ดับอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ใช่
๑๐. อุปปันนุปปาทวาร
[๗๘] อนุ. จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของ
บุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ไม่ใช่เกิดแล้ว บุคคลผู้พร้อมเพียงด้วยจิต จิตของ
บุคคลเหล่านั้นเคยเกิดก็ใช่ เกิดแล้วก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
[๗๙] อนุ. จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้ว แต่
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้วก็ใช่
จักเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ไม่ใช่เกิดแล้ว บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต จิตของบุคคล
เหล่านั้นจักเกิดก็ใช่ เกิดแล้วก็ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จักเกิด
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. เกิดแล้ว
๑๑. อตีตานาคตวาร
[๘๐] อนุ. จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคล
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร
๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร
[๘๑] อนุ. จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่เกิดอยู่ ในอุปปาทขณะ จิตเกิดแล้วก็ใช่
เกิดอยู่ก็ใช่
ปฏิ. จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่เกิดอยู่ แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีตและ
อนาคต ไม่ใช่เกิดอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร
[๘๒] อนุ. จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่ดับแล้ว แต่มิใช่ไม่ดับอยู่ ในอุปปาทขณะ จิตที่
เป็นอนาคต ไม่ใช่ดับแล้วก็ใช่ ไม่ใช่ดับอยู่ก็ใช่
ปฏิ. จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับแล้วใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่ดับอยู่ แต่มิใช่ไม่ดับแล้ว ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็น
อนาคต ไม่ใช่ดับอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่ดับแล้วก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๘๓] อนุ. จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว
จิตของบุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตล่วงไปทุกอุปปาทขณะ แต่ยังไม่ล่วงภังคขณะ จิตที่
เป็นอดีตล่วงไปทุกอุปปาทขณะก็ใช่ ล่วงไปทุกภังคขณะก็ใช่
ปฏิ. จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของ
บุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีต ....
อนุ. จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว
จิตของบุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคต ....
ปฏิ. จิตของบุคคลใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว
จิตของบุคคลนั้นล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ล่วงภังคขณะ แต่มิใช่ไม่ล่วงอุปปาทขณะ ใน
อุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคต ไม่ล่วงภังคขณะก็ใช่ ไม่ล่วงอุปปาทขณะก็ใช่
นิทเทสแห่งปุคคลวาร จบ
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๒. ธัมมวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๘๔] อนุ. จิตใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี
๒. อุปปาทุปปันนวาร
[๘๕] อนุ. จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ จิตเกิด
แล้วก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีตและ
อนาคต ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๓. นิโรธุปปันนวาร
[๘๖] อนุ. จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ จิตเกิด
แล้วก็ใช่ กำลังดับก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๒๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่ใช่กำลังดับ แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีต
และอนาคต ไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
๔. อุปปาทวาร
[๘๗] อนุ. จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะ จิตที่เป็น
อนาคต ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่เคยเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่เคยเกิด แต่มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ จิตที่
เป็นอนาคตไม่เคยเกิดก็ใช่ ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่
[๘๘] อนุ. จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะ จิตที่
เป็นอดีต ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่จักเกิดก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่ใช่จักเกิด แต่มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ จิตที่
เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิดก็ใช่ ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่
[๘๙] อนุ. จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอนาคตไม่เคยเกิด แต่มิใช่จักไม่เกิด จิตที่เป็นปัจจุบันไม่เคยเกิด
ก็ใช่ ไม่ใช่จักเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิด แต่มิใช่ไม่เคยเกิด จิตที่เป็นปัจจุบัน ไม่ใช่จัก
เกิดก็ใช่ ไม่เคยเกิดก็ใช่
๕. นิโรธวาร
[๙๐] อนุ. จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับ แต่มิใช่ไม่เคยดับ ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ ไม่เคยดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่เคยดับ แต่มิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่เคยดับก็ใช่ ไม่ใช่กำลังดับก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
[๙๑] อนุ. จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดจักดับ จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังดับ แต่มิใช่จักไม่ดับ จิตที่
เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ ไม่ใช่จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่จักดับ แต่มิใช่ไม่กำลังดับ จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่
จักดับก็ใช่ ไม่ใช่กำลังดับก็ใช่
[๙๒] อนุ. จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดจักดับ จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคตไม่เคยดับ แต่มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
จิตไม่เคยดับก็ใช่ ไม่ใช่จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักดับ แต่มิใช่ไม่เคยดับ ในภังคขณะ จิตไม่ใช่จักดับ
ก็ใช่ ไม่เคยเกิดก็ใช่
๖. อุปปาทนิโรธวาร
[๙๓] อนุ. จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่ไม่เคยดับ ในภังคขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่เคยดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่เคยดับ แต่มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่เคยดับก็ใช่ ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่
[๙๔] อนุ. จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดจักดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอนาคตจักดับ แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ จิตจักดับก็ใช่
กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ จิตที่เป็น
อดีตไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๙๕] อนุ. จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดจักดับ จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคตไม่เคยเกิด แต่มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
จิตไม่เคยเกิดก็ใช่ ไม่ใช่จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักดับ แต่มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะ จิตไม่ใช่
จักดับก็ใช่ ไม่เคยเกิดก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร
[๙๖] อนุ. จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตและอนาคตไม่ใช่กำลังดับ แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
จิตไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตและอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด แต่ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ
จิตไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ กำลังดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร
[๙๗] อนุ. จิตใดเกิดอยู่ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่เกิดอยู่ ในอุปปาทขณะ จิตเกิดแล้ว
ก็ใช่ เกิดอยู่ก็ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่เกิดอยู่ แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีตและที่
เป็นอนาคต ไม่ใช่เกิดอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร
[๙๘] อนุ. จิตใดดับอยู่ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่ดับอยู่ ในภังคขณะ จิตเกิดแล้ว
ก็ใช่ ดับอยู่ก็ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่ใช่ดับอยู่ แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีตและ
ที่เป็นอนาคต ไม่ใช่เกิดอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ใช่
๑๐. อุปปันนุปปาทวาร
[๙๙] อนุ. จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่เกิดแล้ว แต่มิใช่ไม่เคยเกิด จิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่
เกิดแล้วก็ใช่ ไม่เคยเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นปัจจุบัน ไม่เคยเกิด แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอนาคต ไม่เคย
เกิดก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
[๑๐๐] อนุ. จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่เกิดแล้ว แต่มิใช่จักไม่เกิด จิตที่เป็นอดีต ไม่ใช่
เกิดแล้วก็ใช่ ไม่ใช่จักเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นปัจจุบันไม่ใช่จักเกิด แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จัก
เกิดก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
๑๑. อตีตานาคตวาร
[๑๐๑] อนุ. จิตใดเคยเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดจักเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร
[๑๐๒] อนุ. จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่เกิดอยู่ ในอุปปาทขณะ จิตเกิดแล้วก็ใช่
เกิดอยู่ก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร
ปฏิ. จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่เกิดอยู่ แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีตและที่
เป็นอนาคต ไม่ใช่เกิดอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร
[๑๐๓] อนุ. จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่ดับแล้ว แต่มิใช่ไม่ดับอยู่ ในอุปปาทขณะ จิตที่
เป็นอนาคตไม่ใช่ดับแล้วก็ใช่ ไม่ใช่ดับอยู่ก็ใช่
ปฏิ. จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับแล้วใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่ดับอยู่ แต่มิใช่ไม่ดับแล้ว ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่ใช่ดับอยู่ก็ใช่ ไม่ใช่ดับแล้วก็ใช่
๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๑๐๔] อนุ. จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้น
ล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตล่วงอุปปาทขณะ แต่ไม่ล่วงภังคขณะ จิตที่เป็นอดีต
ล่วงอุปปาทขณะก็ใช่ ล่วงภังคขณะก็ใช่


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
ปฏิ. จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไปทุก ๆ
ขณะที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีต ...
อนุ. จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป
ทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคต ....
ปฏิ. จิตใดล่วงไปทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป
ทุก ๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ล่วงภังคขณะ แต่มิใช่ไม่ล่วงอุปปาทขณะ ใน
อุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคตไม่ล่วงภังคขณะก็ใช่ ไม่ล่วงอุปปาทขณะก็ใช่
นิทเทสแห่งธัมมวาร จบ
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๓. ปุคคลธัมมวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๑๐๕] อนุ. จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคล
นั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้น
ก็ไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิด แต่กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี
๒. อุปปาทุปปันนวาร
[๑๐๖] อนุ. จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ จิตเกิด
แล้วก็ใช่ กำลังเกิดก็ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้ว
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีตและ
ที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่
ไหม
วิ. ใช่
๓. นิโรธุปปันนวาร
[๑๐๗] อนุ. จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตเกิดแล้ว แต่ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ จิตเกิด
แล้วก็ใช่ กำลังดับก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่ใช่กำลังดับ แต่มิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตที่เป็นอดีต
และที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ ไม่ใช่เกิดแล้วก็ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
๔. อุปปาทวาร
[๑๐๘] อนุ. จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่เคยเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่เคยเกิด แต่มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ จิตที่
เป็นอนาคตไม่เคยเกิดก็ใช่ ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่
[๑๐๙] อนุ. จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด แต่มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะ จิตที่เป็น
อดีตไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่ ไม่ใช่จักเกิดก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตไม่ใช่จักเกิด แต่มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ จิตที่
เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิดก็ใช่ ไม่ใช่กำลังเกิดก็ใช่
[๑๑๐] อนุ. จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอนาคตไม่เคยเกิด แต่มิใช่จักไม่เกิด จิตที่เป็นปัจจุบัน ไม่เคย
เกิดก็ใช่ ไม่ใช่จักเกิดก็ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิด แต่มิใช่ไม่เคยเกิด จิตที่เป็นปัจจุบัน ไม่ใช่
จักเกิดก็ใช่ ไม่เคยเกิดก็ใช่
๕. นิโรธวาร
[๑๑๑] อนุ. จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับ แต่มิใช่ไม่เคยดับ ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ ไม่เคยดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่เคยดับ แต่มิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็น
อนาคตไม่เคยดับก็ใช่ ไม่ใช่กำลังดับก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๓. อภิธัมมจิตตมิสสกวิเสส
[๑๑๒] อนุ. จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังดับ แต่มิใช่จักไม่ดับ จิตที่
เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับก็ใช่ ไม่ใช่จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะ จิตไม่ใช่จักดับ แต่มิใช่ไม่กำลังดับ จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่
จักดับก็ใช่ ไม่ใช่กำลังดับก็ใช่
[๑๑๓] อนุ. จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะ จิตที่เป็นอนาคตไม่เคยดับ แต่มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
จิตไม่เคยดับก็ใช่ ไม่ใช่จักดับก็ใช่
ปฏิ. จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักดับ แต่มิใช่ไม่เคยดับ ในภังคขณะ จิตไม่ใช่จักดับ
ก็ใช่ ไม่เคยดับก็ใช่
(ข้อที่ว่า จิตของบุคคลใด ท่านแสดงไว้โดยภาวะแห่งตน ในข้อที่ว่า ในจิตใดแล
ในจิตของบุคคลใด ท่านแสดงไว้โดยอรรถอันเดียวกัน)
นิทเทสแห่งปุคคลธัมมวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก ] นิทเทส ๓. อภิธัมมจิตตมิสสกวิเสส
๒. สุตตันตจิตตมิสสกวิเสส
[๑๑๔] อนุ. จิตมีราคะของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตมีราคะ
ของบุคคลนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีราคะ จิตมีราคะของบุคคลเหล่านั้น
กำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ แต่จักดับ ไม่ใช่จักเกิด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่มีราคะ
ของบุคคลนอกนี้ จิตที่มีราคะของบุคคลเหล่านั้น ฯลฯ
๓. อภิธัมมจิตตมิสสกวิเสส
[๑๑๕] อนุ. จิตที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่เป็นกุศลดวงสุดท้าย จิตที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ แต่จักดับ ไม่ใช่จักเกิด ในอุปปาทขณะแห่งจิต
ที่เป็นกุศลของบุคคลนอกนี้ จิตที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้น ฯลฯ
ปฏิ. จิตที่เป็นกุศลของบุคคลใด ฯลฯ
วิ. ใช่
ฯลฯ
[๑๑๖] อนุ. จิตที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
อนุ. จิตที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
(ยมก ๓ คือ มูลยมก จิตตยมก และธัมมยมก ดำเนินไปจนถึงสภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้และที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้)
นิทเทสแห่งมิสสกวาร จบ
นิทเทสวาร จบ
จิตตยมก จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารอุทเทส ๒. ปทโสธนมูลจักกวาร
ธัมมยมก
๑. ปัณณัตติวารอุทเทส
๑. ปทโสธนวาร
อนุโลม

[๑] สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๑๗)

ปัจจนีกะ

[๒] สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
สภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๑๘)

๒. ปทโสธนมูลจักกวาร
อนุโลม

[๓] สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๑๙)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารอุทเทส ๒. ปทโสธนมูลจักกวาร

[๔] สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๒๐)
[๕] สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม (๒๑)

ปัจจนีกะ

[๖] สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๒๒)
[๗] สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๒๓)
[๘] สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม (๒๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารอุทเทส ๔. สุทธธัมมมูลจักกวาร
๓. สุทธธัมมวาร
อนุโลม

[๙] สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๒๕)

ปัจจนีกะ

[๑๐] สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๒๖)

๔. สุทธธัมมมูลจักกวาร
อนุโลม

[๑๑] สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๒๗)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารอุทเทส ๔. สุทธธัมมมูลจักกวาร

[๑๒] สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๒๘)
[๑๓] สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม (๒๙)

ปัจจนีกะ

[๑๔] สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๓๐)
[๑๕] สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม (๓๑)
[๑๖] สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม (๓๒)

ปัณณัตติวารอุทเทส จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารนิทเทส ๑. ปทโสธนวาร
๑. ปัณณัตติวารนิทเทส
๑. ปทโสธนวาร
อนุโลม
[๑๗] อนุ. สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัจจนีกะ
[๑๘] อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารนิทเทส ๒. ปทโสธนมูลจักกวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
๒. ปทโสธนมูลจักกวาร
อนุโลม
[๑๙] อนุ. สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
อนุ. สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต แต่เป็นสภาวธรรม
[๒๐] อนุ. สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศล
ก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศล แต่เป็นสภาวธรรม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารนิทเทส ๒. ปทโสธนมูลจักกวาร
อนุ. สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต แต่เป็น
สภาวธรรม
[๒๑] อนุ. สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศล
ก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
อนุ. สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
ปัจจนีกะ
[๒๒] อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารนิทเทส ๓. สุทธธัมมวาร
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๓] อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๔] อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤต
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
๓. สุทธธัมมวาร
อนุโลม
[๒๕] อนุ. สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารนิทเทส ๓. สุทธธัมมวาร
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศล
ก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
อนุ. สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
อนุ. สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต แต่เป็นสภาวธรรม
ปัจจนีกะ
[๒๖] อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
วิ. เว้นสภาวะที่เป็นกุศลแล้ว สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศล
แต่เป็นสภาวธรรม เว้นสภาวะที่เป็นกุศลและสภาวธรรมแล้ว สภาวธรรมที่เหลือ
เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศลก็ใช่ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมก็ใช่
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
วิ. เว้นสภาวะที่เป็นอกุศลแล้ว สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศล
แต่เป็นสภาวธรรม เว้นสภาวะที่เป็นอกุศลและสภาวธรรมแล้ว สภาวธรรมที่เหลือ
เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลก็ใช่ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารนิทเทส ๔. สุทธธัมมมูลจักกวาร
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
วิ. เว้นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตแล้ว สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็น
อัพยากฤต แต่เป็นสภาวธรรม เว้นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตและสภาวธรรมแล้ว
สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤตก็ใช่ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมก็ใช่
ปฏิ. สภาวะที่ไม่เป็นธรรม เป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. ใช่
๔. สุทธธัมมมูลจักกวาร
อนุโลม
[๒๗] อนุ. สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
อนุ. สภาวะที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต แต่เป็นสภาวธรรม
[๒๘] อนุ. สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๑. ปัณณัตติวารนิทเทส ๔. สุทธธัมมมูลจักกวาร
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศล
ก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
อนุ. สภาวะที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอัพยากฤตใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอัพยากฤต แต่เป็น
สภาวธรรม
[๒๙] อนุ. สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศล
ก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
อนุ. สภาวะที่เป็นอัพยากฤต เป็นสภาวธรรมใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมทั้งหลาย เป็นสภาวะที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศล เป็นสภาวธรรมก็ใช่ เป็นสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็ใช่ สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นอกุศล แต่เป็นสภาวธรรม
ปัจจนีกะ
[๓๐] อนุ. สภาวะที่ไม่เป็นกุศล เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมใช่ไหม
วิ. เว้นสภาวะที่เป็นกุศลแล้ว สภาวธรรมที่เหลือเป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศล
แต่เป็นสภาวธรรม เว้นสภาวะที่เป็นกุศลและสภาวธรรมแล้ว สภาวธรรมที่เหลือ
เป็นสภาวะที่ไม่เป็นกุศลก็ใช่ เป็นสภาวะที่ไม่เป็นธรรมก็ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔ }

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น