Google Analytics 4

ร่วมแชร์เป็นธรรมทานนะครับ

เล่มที่ ๓๙-๓ หน้า ๑๐๙ - ๑๖๒

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙-๓ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๖ ยมก ภาค ๒



พระอภิธรรมปิฎก
ยมก ภาค ๒
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็จักดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๑๒๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง
จิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ
แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่
ใช่จักดับ
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๐๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
[๑๒๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัจจนีกโอกาส
[๑๓๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๓๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ
แห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค
อรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่
จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๓๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมบุคคล
[๑๓๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ใน
ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคย
ดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ
ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่า
นั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ
[๑๓๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่
กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมโอกาส
[๑๓๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๓๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๑๓๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๑๓๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๑๓๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกโอกาส
[๑๔๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๔๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่เคยดับ เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
สุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ
บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๔๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ
บุคคลผู้กำลังอุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
[๑๔๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิต
ใด (ในภังคขณะแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่
เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ
ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ใน
ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้น
จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ
[๑๔๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลัง
ดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับ
อนุโลมโอกาส
[๑๔๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๔๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ
แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่
เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและสภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ
[๑๔๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๑๔๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๑๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ
ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคใน
ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันต-
บุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่
ใช่กำลังดับ
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่
ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง
ดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๔๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัจจนีกโอกาส
[๑๕๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๕๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล
บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค
อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิต
นั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๕๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
[๑๕๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคย
ดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๕๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุโลมโอกาส
[๑๕๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๕๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้
ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคย
ดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยดับ
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยดับ และสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ
และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ
และสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๑๕๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติ
อยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการ-
ภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจัก
ดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๑๕๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๑๕๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปัจจนีกโอกาส
[๑๖๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๖๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิ
ใช่จักไม่ดับ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่เคยดับ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่เคยดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
[๑๖๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
นิโรธวาร จบ
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร
๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุโลมบุคคล
[๑๖๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
[๑๖๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุโลมโอกาส
[๑๖๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
[๑๖๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมิ
นั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิด
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๖๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๒๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
[๑๖๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปัจจนีกบุคคล
[๑๖๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาท-
ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล บุคคลผู้เข้า
นิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล บุคคลผู้เข้า
นิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลใน
ปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่
กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้ง
หมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลในปวัตติกาล ในภังคขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด
[๑๗๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่
ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล
ในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่
กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลในปวัตติกาล
ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
[๑๗๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
[๑๗๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๗๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด
ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
มิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจาก
กุศลในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ
สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลในปวัตติกาล ใน
ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด
[๑๗๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศลในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลัง
เกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลใน
ปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด
๒. อตีตวาร
อนุโลมบุคคล
[๑๗๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๗๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุโลมโอกาส
[๑๗๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมินั้น
ก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใน
ภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
[๑๗๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยเกิด
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๗๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตที่เป็นอกุศลดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ
และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ
และสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด
[๑๘๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน
จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๑๘๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
[๑๘๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกโอกาส
[๑๘๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ
นั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
[๑๘๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๘๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตที่เป็นอกุศลดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็น
ไปอยู่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติใน
สุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๓๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
[๑๘๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติใน
สุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๓. อนาคตวาร
อนุโลมบุคคล
[๑๘๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ
บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและอรหันตบุคคล สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็น
กุศลก็จักเกิด
[๑๘๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็
จักเกิด
อนุโลมโอกาส
[๑๘๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมินั้น
ก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใน
ภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็จักเกิด
[๑๙๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับ แต่
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักเกิด
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๙๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่
จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล และบุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ
และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ
และสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็จักเกิด
[๑๙๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็จักเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๑๙๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่จักไม่
เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและอรหันตบุคคล สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและอรหันตบุคคล สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๙๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและสภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัจจนีกโอกาส
[๑๙๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
[๑๙๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๙๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่
จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคลและบุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
ดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคลและบุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็
ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๙๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมบุคคล
[๑๙๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด
ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่า
นั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด
ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล
เหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
[๒๐๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่
กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมโอกาส
[๒๐๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๒๐๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๒๐๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ใน
อุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๒๐๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๔๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๒๐๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกโอกาส
[๒๐๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๒๐๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่เคยดับ เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติในสุทธา-
วาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคล
ผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๐๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ
บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
[๒๐๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง
จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและสภาวธรรมที่
เป็นอกุศลก็จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด
ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่า
นั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด
ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล
เหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
[๒๑๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่
กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมโอกาส
[๒๑๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๒๑๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ
แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งสภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิดในอุปปาทขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
[๒๑๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๒๑๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ
ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิต
ใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ
แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่
ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค
อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่
กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่
ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๑๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปัจจนีกโอกาส
[๒๑๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๒๑๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล
บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง
จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตต-
มรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่ง
จิตนั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังค-
ขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๑๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
[๒๑๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้
สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๒๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุโลมโอกาส
[๒๒๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมปุคคโลกาส
[๒๒๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน
จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๕๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๒๒๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่
เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน
จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๒๒๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๖๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๒๒๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[๒๒๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๒๒๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
มิใช่จักไม่ดับ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้
อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่เคยเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่
เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๖๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก ] ๓. ภาวนาวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
[๒๒๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. จักดับ
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อุปปาทนิโรธวาร จบ
ปวัตติวาร จบ
๓. ภาวนาวาร
[๒๒๙] อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญสภาวธรรมที่เป็นกุศล บุคคลนั้นก็กำลังละ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังละสภาวธรรมที่เป็นอกุศล บุคคลนั้นก็กำลังเจริญสภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญสภาวธรรมที่เป็นกุศล บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ละสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละสภาวธรรมที่เป็นอกุศล บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เจริญสภาวธรรมที่เป็นกุศลใช่ไหม
วิ. ใช่
ฯลฯ
ภาวนาวาร จบ
ธัมมยมก จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๑๖๒ }

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น