Google Analytics 4

ร่วมแชร์เป็นธรรมทานนะครับ

เล่มที่ ๔๑-๑ หน้า ๑ - ๕๖

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๑-๑ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๘ ปัฏฐาน ภาค ๒



พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร

พระอภิธรรมปิฎก
ธัมมานุโลม ติกปัฏฐาน
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๑] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิด
ขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
และวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑
ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ วิตกและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตกและกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้น (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
วิตกอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจาร ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
อาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ วิตก
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
วิตกและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ วิตกและ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ วิตกและ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๗)
[๒] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ วิจารและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
วิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิจารและกฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยวิตก
เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและกฏัตตารูปอาศัยวิตก
เกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ วิจาร และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ วิจาร
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ วิจาร
และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ วิจาร
และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๕)
[๓] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยวิจารเกิดขึ้น วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูป
ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
กฏัตตารูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจาร ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
อาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิ-
ขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น (๗)
[๔] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้ง
วิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้ง
วิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มี
ทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มี
ทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจาร ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
อาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๗)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๕] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตก
และวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจาร
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจาร
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกและมหาภูตรูป
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจาร
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ วิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยวิตกและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ และวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ และวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ และวิจารอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิจารอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๕)
[๖] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้ง
วิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตกเกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตกเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจาร
และอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ และวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ และวิตกเกิดขึ้น (๓)
[๗] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐาน-
รูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ วิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตก
และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและมหาภูตรูป
เกิดขึ้น (๓)
อารัมมณปัจจัย
[๘] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑
ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
[๙] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ วิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และวิจารอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิจารอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔)
[๑๐] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๕)
[๑๑] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่
มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้ง
วิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัยขันธ์ที่มี
ทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๓)
[๑๒] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่
มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และ
วิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ วิจารอาศัย
ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิจารอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิจารอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๔)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๑๓] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มี
ทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตกเกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
(พึงจําแนกปัจจัย ๒๐ ที่เหลือเหมือนที่จําแนกปัจจัย ๒ ไว้ตามแนวทางการ
สาธยาย)
วิปปยุตตปัจจัย
[๑๔] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิ-
ขณะ ฯลฯ (๔)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ วิตกและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒
และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัย
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ วิตก
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ วิตก
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้น เพราะวิปปยุตตปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๗)
[๑๕] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์
๒ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกเกิดขึ้น ขันธ์
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ วิจารและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารเกิดขึ้น วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น จิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ วิจารและจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ วิจาร
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์และวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๕)
[๑๖] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุอาศัยวิจารเกิดขึ้น
วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
หทัยวัตถุอาศัยวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป
๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและ
วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและกฏัตตารูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ขันธ์
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยวิจารเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์และ
วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจารและวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย (๖)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร อาศัย
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิ-
ขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๗)
[๑๗] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี
ทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้ง
วิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑
ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และ
หทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มี
ทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ วิตกอาศัยขันธ์ที่
มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๕)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิตก
อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
วิตกอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัย
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์และวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๗)
[๑๘] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัย
วิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยวิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตต-

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยวิตกและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิ-
ขณะ วิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น วิจารอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยวิตกและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูป
อาศัยวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์และวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตา-
รูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และวิจาร
อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒
ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๕)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๑๙] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัย
วิตกเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตก
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิตกเกิด
ขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์และวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
[๒๐] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒
ฯลฯ ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจารอาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และวิตก
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์และ
วิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจาร ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
หทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๒ ฯลฯ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจาร
อาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์และวิตกเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
อัตถิปัจจัย - อวิคตปัจจัย
[๒๑] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิด
ขึ้นเพราะอัตถิปัจจัย ฯลฯ เพราะนัตถิปัจ จัย เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย (ย่อ)
๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๒๒] เหตุปัจจัย มี ๓๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๒๑ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๒๓ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๒๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๒๑ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๓๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๒๘ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๓๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๒๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อาเสวนปัยจัย มี ๑๑ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๓๗ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๓๗ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๓๗ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๓๗ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๑๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร

ฌานปัจจัย มี ๓๗ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๓๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๒๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๓๗ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๒๑ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๒๑ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๓๗ วาระ

ทุกนัย

อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๒๑ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓๗ วาระ (ย่อ)

(พึงนับเหมือนการนับในกุสลติกะ)

อนุโลม จบ
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๒๓] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
ฯลฯ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ วิตกอาศัยขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑
ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ วิตกและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่
เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัย
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ วิตกและ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๗)
[๒๔] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกที่เป็นอเหตุกะ
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกเกิดขึ้น
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอาศัยวิตกที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกที่เป็นอเหตุกะเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ กฏัตตารูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยวิตกที่เป็นอเหตุกะเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและกฏัตตารูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูป
ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... อาศัย
มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและ
วิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ วิตกอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์
ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
วิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๖)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจาร ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
อาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ใน
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๗)
[๒๕] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี
ทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ วิตก
อาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี
ทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็น
อเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็น
อเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจาร
และอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่
เป็นอเหตุกะ วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อเหตุกะ ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัย
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและ
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๗)
[๒๖] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกที่เป็น
อเหตุกะและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ กฏัตตารูปอาศัย
วิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูป
อาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
[๒๗] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
และวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตก
วิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และวิตกเกิดขึ้น โมหะ
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะและอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอเหตุกะ
ซึ่งมีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกวิจาร และอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ และวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่
เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๓)
[๒๘] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งมีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
วิจาร ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตก
และหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ วิตกและหทัยวัตถุเกิดขึ้น
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
นอารัมมณปัจจัย
[๒๙] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น (๑))

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัย
ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ทหัยวัตถุอาศัย
ขันธ์เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยวิจารเกิดขึ้น ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม ...อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
[๓๐] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์
ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิตกและมหาภูตรูป
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจาร
ฯลฯ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยวิตกและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิ-
ขณะ ฯลฯ กฏัตตารูป (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอธิปติปัจจัย
[๓๑] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ฯลฯ มี ๗ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยขันธ์ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิ-
ขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ วิจารและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบาก
ซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ วิจารและจิตตสมุฏฐาน-
รูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ (๕)
[๓๒] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัย
ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยหทัย
วัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น
ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
... อาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ... มี ๗ วาระ
[๓๓] ... อาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร ... มี ๗
วาระ (ย่อ)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น เพราะ
นอธิปติปัจจัย อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และอาศัยวิจารเกิดขึ้น ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
อาศัยวิจาร ... (ย่อ)
นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๓๔] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย เพราะนอัญญมัญญปัจจัย
เพราะนอุปนิสสยปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)
นปุเรชาตปัจจัย
[๓๕] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจาร ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตก
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ วิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยวิตกเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจาร
และกฏัตตารูปอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ และ
วิจารอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๕)
[๓๖] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยวิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัย
วิจารเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ (ย่อ) (๗)
... อาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร มี ๗ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๒๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๓๗] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะ (ย่อ) (๗)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ (ย่อ)
(ในนปุเรชาตมูลกนัย พึงเพิ่มรูปาวจรภูมิให้เหมือนกับอรูปาวจรภูมิล้วน ๆ)
นปัจฉาชาตปัจจัยเป็นต้น
[๓๘] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนปัจฉาชาตปัจจัย ฯลฯ เพราะนอาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
... (ย่อ) (๕)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
... (ย่อ)
(ในนอาเสวนมูลกนัย เมื่อรวมสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเข้ากับวิบาก
พึงทําให้เหมือนกับนปุเรชาตปัจจัย
อนึ่ง เมื่อรวมสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเข้ากับสภาวธรรมที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารก็พึงแสดงวิบากไว้ด้วย)
นกัมมปัจจัย
[๓๙] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตก
และวิจารเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยวิจารเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
อาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และอาศัยวิจารเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยขันธ์
ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น (๑)
นวิปากปัจจัยเป็นต้น
[๔๐] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ฯลฯ เพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ ที่เป็นภายนอก ...
ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ เพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ...
ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
รูปชีวิตินทรีย์อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ฯลฯ เพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ... อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ฯลฯ
เพราะนมัคคปัจจัย เพราะนสัมปยุตตปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นวิปปยุตตปัจจัย
[๔๑] ... เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ วิตกอาศัยขันธ์ที่มีทั้งวิตกและ
วิจารเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้ง
วิตกและวิจารเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓
และวิตกอาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และวิตกอาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
[๔๒] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัย
วิตกเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น
เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ วิจารอาศัยขันธ์ที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓
และวิจารอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
วิจารอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร
... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตต-
พรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดขึ้น
เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัย
วิจารเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารอาศัยสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และอาศัยวิจารเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ และวิจารเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและอาศัยวิตกเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
และวิตกเกิดขึ้น (๑)
โนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย
[๔๓] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารอาศัยสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เกิดขึ้นเพราะโนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย (ย่อ)
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๔๔] นเหตุปัจจัย มี ๓๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๒๓ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๓๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ (ย่อ)

(พึงนับเหมือนการนับปัจจนียะในกุสลติกะ)
ปัจจนียะ จบ
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ

[๔๕] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๗ วาระ

(พึงนับเหมือนการนับจำนวนอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะ)
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย

[๔๖] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๔ วาระ
อนันตรปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร

สหชาตปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย ” มี ๒๒ วาระ
นิสสยปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย ” มี ๖ วาระ
อาเสวนปัจจัย ” มี ๕ วาระ
กัมมปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ ฯลฯ
ฌานปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
มัคคปัจจัย ” มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ (ย่อ)

(พึงนับเหมือนการนับจำนวนปัจจนียานุโลมในกุสลติกะ)
ปฏิจจวาร จบ
(พึงเพิ่มสหชาตวารให้เหมือนกับปฏิจจวาร)
๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
๑. ปัจจยานุโลม
เหตุปัจจัย
[๔๗] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒... มี ๗ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... มี ๕ วาระ (ปัจจัยนี้เหมือน
กับปฏิจจวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่
ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป
ทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิตกทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและจิตต-
สมุฏฐานรูปทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิตก
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๖)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำภาว-
ธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและ
วิตกทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๗)
[๔๘] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี
ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกวิจารและ
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (ปฏิสนธิขณะที่มีในอุทาหรณ์แรก พึงเพิ่มเป็น ๗ วาระ)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มี
ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำวิตกและหทัย-
วัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่
มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำวิตกและมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น วิจารทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (ในปฏิสนธิขณะ มีอาการ ๔ เหมือนกัน) (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
ทำวิตกและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำวิตกและมหาภูตรูป ให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และวิจารทำขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ฯลฯ (๕)
(ในฆฏนาทั้ง ๒ ฝ่ายที่เหลือพึงขยายปวัตติกาลและปฏิสนธิกาลให้พิสดาร)
เหตุปัจจัย จบ
(ผู้รู้เหตุปัจจัย พึงขยายปัจจยวารให้พิสดาร พึงนับเหมือนการนับปฏิจจวาร
อธิปติปัจจัย มี ๓๗ วาระ ปุเรชาตปัจจัยและอาเสวนปัจจัย มี ๒๑ วาระ นี้
เป็นความต่างกันในปัจจยวารนี้)
๒. ปัจจยปัจจนียะ
[๔๙] ในปัจจนียะ นเหตุปัจจัย มี ๓๓ วาระ ในฐานทั้ง ๗ พึงยกโมหะ
ทั้ง ๗ ขึ้นแสดงไว้เฉพาะในบทที่เป็นมูล ในนอารัมมณปัจจัยพึงยกสภาวธรรมที่มี
จิตเป็นสมุฏฐานทั้ง ๗ ขึ้นแสดง
นอธิปติปัจจัย
[๕๐] ในนอธิปติปัจจัย พึงเพิ่มวาระที่มีสภาวธรรมซึ่งมีทั้งวิตกและวิจารเป็น
มูลไว้ ๗ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำขันธ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
... ทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... (พึงเพิ่ม ๕ วาระเหมือนนัย
แห่งปฏิจจวาร)
[๕๑] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก
ซึ่งไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำวิจารที่เป็น
วิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีทั้งวิตกวิจารและวิจาร
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารทำวิจารที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและจิตต-

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๓๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สมุฏฐานรูปทำวิจารที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น วิตกทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๖)
(ในฆฏนาแรก พึงเพิ่มให้ครบทั้ง ๗ วาระ)
[๕๒] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารทำวิตก
และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำ
ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น อธิบดีธรรมที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจาร ทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ...
ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจาร ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำ
ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
(ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มเป็น ๕ วาระ พึงเพิ่มวิบากไว้ในที่มาแห่งสภาว-
ธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ในนัยที่มีนอธิปติปัจจัยเป็นมูล พึงเพิ่มเป็น ๓๗ วาระ)
นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๕๓] นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัยและนอุปนิสสย-
ปัจจัย ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๗ วาระ มีเฉพาะรูปเท่านั้น นปุเรชาตปัจจัยมี ๓๗ วาระ
เหมือนกับปัจจนียะในปฏิจจวาร นปัจฉาชาตปัจจัยมี ๓๗ วาระ แม้นอาเสวนปัจจัย
ก็เหมือนกัน พึงเพิ่มวิบากไว้ในที่มาแห่งสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
นกัมมปัจจัย
[๕๔] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกและวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและ
วิจารทำวิตกให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ (พึงเพิ่มให้บริบูรณ์)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
[๕๕] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มี
ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจาร และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มี
ทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำวิตกและหทัย-
วัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่
ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารทำขันธ์ที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เจตนาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
ทำขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ เจตนาที่มีทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและทำวิตกให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารทำสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่มี
ทั้งวิตกและวิจารทำขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารวิตกและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
(นวิปากปัจจัยพึงเพิ่มเป็น ๓๗ วาระ พึงขยายนอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย
นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย โนนัตถิปัจจัย
และโนวิคตปัจจัยให้พิสดาร)
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๕๖] นเหตุปัจจัย มี ๓๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๓๗ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๓. ปัจจยวาร

นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๓๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ

[๕๗] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๗ วาระ

อนุโลมปัจจนียะ จบ
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม

[๕๘] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๔ วาระ
อนันตรปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
สหชาตปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย ” มี ๒๒ วาระ
นิสสยปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
อาเสวนปัจจัย ” มี ๑๓ วาระ
กัมมปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
วิปากปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

อาหารปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
อินทรียปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
ฌานปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
มัคคปัจจัย ” มี ๕ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” มี ๑๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ
อัตถิปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย ” มี ๓๓ วาระ

ปัจจนียานุโลม จบ
ปัจจยวาร จบ
(แม้นิสสยวาร ก็ไม่ต่างกัน)
๖. วิตักกติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
๑. ปัจจยานุโลม
เหตุปัจจัย
[๕๙] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและ
วิจารเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ
เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
ฯลฯ วิตกเกิดระคนกับขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่
มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ ขันธ์ ๓ และวิตกเกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่มีทั้งวิตกและวิจาร
ฯลฯ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
[๖๐] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจาร ฯลฯ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
ฯลฯ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดระคนกับวิตก ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
ฯลฯ วิจารเกิดระคนกับขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ในปฏิสนธิขณะ วิจารเกิดระคน
กับขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเกิดระคนกับสภาว-
ธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ฯลฯ ขันธ์ ๓ และวิจารเกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจาร ฯลฯ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๔)
[๖๑] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
ฯลฯ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจาร ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดระคนกับวิจาร ในปฏิสนธิขณะ ...
เกิดระคนกับวิจาร ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร ฯลฯ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และเกิดระคนกับวิจาร ฯลฯ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเกิดระคนกับสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่มี
ทั้งวิตกวิจารและเกิดระคนกับวิตก ฯลฯ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ และวิตก ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
(ผู้รู้เหตุปัจจัยพึงขยายทุกปัจจัยให้พิสดาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
สุทธนัย

[๖๒] เหตุปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๑๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๑๑ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๑๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๑๑ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๑๑ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๑๑ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๑๑ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๑๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๑๑ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๑ วาระ

ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑๑ วาระ
อนุโลม จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ
(ผู้รู้พึงเพิ่มปัจจนียะไว้)

[๖๓] นเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๖ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ

ปัจจนียะ จบ
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
ทุกนัย

[๖๔] นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๑๑ วาระ ฯลฯ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๑๑ วาระ (ย่อ)

อนุโลมปัจจนียะ จบ
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม

[๖๕] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ ฯลฯ
ปุเรชาตปัจจัย ” มี ๖ วาระ
อาเสวนปัจจัย ” มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร

กัมมปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ ฯลฯ
ฌานปัจจัย ” มี ๖ วาระ
มัคคปัจจัย ” มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” มี ๖ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย ” มี ๖ วาระ

(พึงขยายสัมปยุตตวารให้พิสดาร)
๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๖๖] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและ
วิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
เหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่วิตกโดยเหตุปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดย
เหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดย
เหตุปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่มีทั้งวิตก
และวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๔)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่
วิตกและจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจาร
เป็นปัจจัยแก่วิตกและกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และวิตกโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และวิตกโดยเหตุปัจจัย (๖)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ วิตก และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุ
ที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ วิตก และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๗)
[๖๗] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต-
ขันธ์โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่วิจารและจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัย
แก่วิจารและกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัย
แก่สัมปยุตตขันธ์ วิจาร และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่ไม่
มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ วิจาร และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๓)
[๖๘] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๔๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๑)
อารัมมณปัจจัย
[๖๙] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและ
วิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ออกจากฌานที่มีทั้งวิตกและ
วิจาร ออกจากมรรค ออกจากผลแล้ว พิจารณาผล พระอริยะพิจารณากิเลสที่ละ
ได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น เห็นแจ้งขันธ์ที่มีทั้งวิตก
และวิจาร โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เพราะปรารภขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้น เพราะปรารภกุศลนั้น วิตกจึงเกิดขึ้น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสม
ไว้ดีแล้ว ออกจากฌานที่มีทั้งวิตกและวิจาร ออกจากมรรค ออกจากผลแล้ว
พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น วิตกจึงเกิดขึ้น พระอริยะพิจารณา
กิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้นเห็นแจ้งขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกและวิจารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น วิตกจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่มี
ทั้งวิตกและวิจาร วิตกจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่มีทั้ง
วิตกและวิจารด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่เจโต-
ปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ และอนาคตังสญาณโดย
อารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารจึงเกิดขึ้น (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษา
อุโบสถแล้วพิจารณากุศลนั้น เพราะปรารภกุศลนั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก
จึงเกิดขึ้น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ออกจากฌานที่มีทั้งวิตกและวิจาร
ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น ขันธ์ที่มีทั้ง
วิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น พระอริยะพิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่
ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น เห็นแจ้งขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจาร โดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินขันธ์นั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่มี
ทั้งวิตกและวิจาร ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น (๔)
[๗๐] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลออกจากฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น วิตกจึงเกิดขึ้น
เห็นแจ้งขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิตกโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น วิตกจึงเกิดขึ้น
เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิตก วิตกจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและ
วิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลออกจากฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ออก
จากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตก
และวิจารจึงเกิดขึ้น เห็นแจ้งขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิตกโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น
ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และวิตก ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณและอนาคตังสญาณ
โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิตก ขันธ์ที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจาร
และที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลออกจากฌานที่ไม่มีวิตก
มีเพียงวิจาร ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น เห็นแจ้งขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
วิตกโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น
เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิตก ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก
จึงเกิดขึ้น (๔)
[๗๑] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ นิพพานเป็นปัจจัยแก่มรรค ผลที่ไม่มีทั้งวิตก
วิจารและวิจารโดยอารัมมณปัจจัย บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย
ทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
ด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ ฯลฯ
อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดยอารัมมณปัจจัย
รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กาย-
วิญญาณโดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ
เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ และอนาคตังสญาณ
โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารและวิจาร ขันธ์ที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะออกจากฌานที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ออก
จากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและ
วิจารจึงเกิดขึ้น พระอริยะพิจารณานิพพาน นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
มรรค ผล ที่มีทั้งวิตกวิจาร และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย บุคคลเห็นแจ้งจักษุ
โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภ
ความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็น
แจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ...
โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารและวิจาร โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะ
เป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีทั้ง
วิตกวิจารและวิจาร ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะออกจากฌานที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น วิตก
จึงเกิดขึ้น พระอริยะพิจารณานิพพาน นิพพานเป็นปัจจัยแก่มรรค ผล ที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและวิตก โดยอารัมมณปัจจัย บุคคลเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ฯลฯ หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร และ
วิจารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้น วิตกจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่
มีทั้งวิตกวิจารและวิจาร วิตกจึงเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ นิพพานเป็นปัจจัยแก่มรรค
ผลที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจาร โดยอารัมมณปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจาร
และที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะออกจากฌานที่ไม่
มีทั้งวิตกและวิจาร ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผล เพราะปรารภฌาน
เป็นต้นนั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจาร และวิตกจึงเกิดขึ้น พระอริยะพิจารณานิพพาน
นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภูและวิตก โวทานและวิตก มรรคที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก
ผลที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก อาวัชชนจิตและวิตกโดยอารัมมณปัจจัย บุคคลเห็นแจ้ง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
จักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจาร และวิตกจึงเกิดขึ้น
บุคคลเห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
และวิจารโดยความเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึง
เกิดขึ้น (๕)
[๗๒] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจารและวิจาร ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและวิจาร วิตกจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และ
วิจารเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ
และอนาคตังสญาณ โดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และวิจาร ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภ
ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร และวิจาร ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น (๔)
[๗๓] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภขันธ์ที่มีทั้งวิตก
วิจารและวิตก ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจาร
และวิตก วิตกจึงเกิดขึ้น (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกเป็น
ปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ และ
อนาคตังสญาณโดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก
ขันธ์ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจึงเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภ
ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น (๔)
อธิปติปัจจัย
[๗๔] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและ
วิจารโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ และสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานที่มีทั้งวิตกและวิจาร ออกจากมรรค
ออกจากผลแล้วพิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่มี
ทั้งวิตกและวิจารให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทําความยินดีเพลิดเพลินขันธ์
นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต-
ขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำการพิจารณากุศลนั้นให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตกจึงเกิดขึ้น บุคคลพิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานที่มีทั้งวิตกและวิจาร ออกจากมรรค

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๖. วิตักกติกะ ๗. ปัญหาวาร
ออกจากผลแล้วพิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำการพิจารณา
ผลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตกจึงเกิดขึ้น บุคคลยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่มี
ทั้งวิตกและวิจาร ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลิน
ขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น วิตกจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่วิตกโดย
อธิปติปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอธิปติปัจจัยมีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีทั้งวิตก
และวิจารเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและ
ที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดย
อธิปติปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่วิตกและจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติ-
ปัจจัย (๕)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่
ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ และ
สหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำการพิจารณากุศลนั้นให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกจึงเกิดขึ้น บุคคล
พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้วให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานที่มี
ทั้งวิตกและวิจาร ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่าง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๑ หน้า :๕๖ }

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น