Google Analytics 4

ร่วมแชร์เป็นธรรมทานนะครับ

เล่มที่ ๓๘-๙ หน้า ๔๕๖ - ๕๑๒

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘-๙ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๕ ยมก ภาค ๑



พระอภิธรรมปิฎก
ยมก ภาค ๑
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. กายสังขารในภูมิใดกำลังเกิด จิตตสังขารในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารในภูมิใดกำลังเกิด กายสังขารในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในจตุตถฌาน และในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นจิตต-
สังขารกำลังเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน
และในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นจิตตสังขารกำลังเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด
[๒๒] อนุ. วจีสังขารในภูมิใดกำลังเกิด จิตตสังขารในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารในภูมิใดกำลังเกิด วจีสังขารในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน ในฌานนั้นจิตตสังขารกำลังเกิด
แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในปฐมฌาน และในกามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจร-
ภูมิ ในภูมินั้นจิตตสังขารกำลังเกิดและวจีสังขารก็กำลังเกิด
อนุโลมปุคคโลกาส
[๒๓] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด และ ของบุคคลใดในภูมิใด เหมือนกัน)
ปัจจนีกบุคคล
[๒๔] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ กาย-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๕๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร วจี-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่กายสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิต
ของบุคคลทั้งหมด บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๕] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของ
บุคคลทั้งหมด บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๕๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปัจจนีกโอกาส
[๒๖] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นกายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด
แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในจตุตถฌานและในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้น
กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. วจีสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด กายสังขารในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในทุติยฌานและตติยฌาน ในฌานนั้นวจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด แต่กาย-
สังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในจตุตถฌานและในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นวจีสังขารไม่
ใช่กำลังเกิดและกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในจตุตถฌาน และในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นกายสังขาร
ไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้น
กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด กายสังขารในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๗] อนุ. วจีสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารในภูมินั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน ในฌานนั้นวจีสังขารไม่ใช่
กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้น
วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๕๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๒๘] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ กาย-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ใน
ภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่ง
เว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
วิ. ใช่
(พึงขยายคำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด และ ของบุคคลใดในภูมิใด ให้
พิสดารโดยนัยอย่างเดียวกันกับ ในคำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใดในภูมิใด คำว่า
ของบุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีไม่ได้)
๒. อตีตวาร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[๒๙] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดเคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยเกิด ฯลฯ
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดเคยเกิด ฯลฯ
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๕๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
[๓๐] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดเคยเกิด ฯลฯ
วิ. ใช่
อนุโลมโอกาส
[๓๑] อนุ. กายสังขารในภูมิใดเคยเกิด ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ในภูมิใด เหมือนกันทุกแห่ง)
อนุโลมปุคคโลกาส
[๓๒] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่วจีสังขารไม่เคยเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและวจีสังขารก็เคยเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่กายสังขารไม่เคยเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
กายสังขารก็เคยเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่กายสังขารไม่เคยเกิด บุคคลผู้
เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จิตต-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและกายสังขารก็เคยเกิด
[๓๓] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน เมื่อจิตดวงที่ ๒
ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิด แต่วจีสังขารไม่เคยเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิดและวจีสังขารก็เคยเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๓๔] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
[๓๕] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกโอกาส
[๓๖] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่เคยเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๓๗] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน
เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและวจีสังขารก็ไม่
เคยเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในฌาน
นั้นไม่เคยเกิด แต่กายสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน เมื่อจิตดวงที่ ๒
ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและกายสังขารก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด
บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กาย-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและจิตตสังขารก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๓๘] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน เมื่อจิตดวงที่ ๒
ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด
และจิตตสังขารก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
๓. อนาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๓๙] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดจักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ และบุคคล
เหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ วจีสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิดและกายสังขารก็จักเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดจักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ บุคคล
เหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ จิตตสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิดและกายสังขารก็จักเกิด
[๔๐] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดจักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและวจีสังขารก็จักเกิด
อนุโลมโอกาส
[๔๑] อนุ. กายสังขารในภูมิใดจักเกิด ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุโลมปุคคโลกาส
[๔๒] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิด แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและวจีสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้เข้าปฐม-
ฌานและบุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิดและกายสังขารก็จักเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ
อรูปาวจรภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่
จักเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และบุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและกายสังขารก็จักเกิด
[๔๓] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌาน
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ และบุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจร-
ภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและวจีสังขารก็จักเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๔๔] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ และบุคคล
เหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
ปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคล
เหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยปัจฉิมจิต กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๔๕] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคล
ผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจิตตสังขาร
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัจจนีกโอกาส
[๔๖] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๔๗] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ใน
ลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่กายสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น)
บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและกายสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ
อรูปาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่
จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๔๘] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จิตตสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[๔๙] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและกายสังขารก็
กำลังเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดเคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด
[๕๐] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๖๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดเคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากวิตกและวิจาร บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและวจีสังขารก็กำลังเกิด
อนุโลมโอกาส
[๕๑] อนุ. กายสังขารในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๕๒] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่วจีสังขารไม่เคยเกิด
ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและวจีสังขารก็
เคยเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่กาย-
สังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด
[๕๓] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่วจีสังขารไม่
ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิดและวจีสังขารก็กำลังเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๕๔] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
[๕๕] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกโอกาส
[๕๖] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๕๗] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้
อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน ในอุปปาทขณะแห่ง
จิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของ
บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
วจีสังขารก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่กายสังขารมิใช่ไม่
กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน
ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ
เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด
และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
จิตตสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด และ
จิตตสังขารก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๕๘] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
วิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขาร
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๕๙] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่ง
ลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด
[๖๐] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร
ของบุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและจิตตสังขารก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
วิตกและวิจาร บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตต-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่ง
วิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและวจีสังขารก็กำลังเกิด
อนุโลมโอกาส
[๖๑] อนุ. กายสังขารในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๖๒] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด วจีสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่วจีสังขารไม่ใช่จัก
เกิด ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้
อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ
วจีสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่กายสังขาร
ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและกายสังขารก็กำลังเกิด
[๖๓] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด ในอุปปาทขณะแห่งวิตก
และวิจารของบุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ
จิตตสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่วจีสังขารไม่
ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิดและวจีสังขารก็กำลังเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๖๔] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขาร
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๖๕] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[๖๖] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๖๗] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌาน
และตติยฌาน ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้นจากลม
อัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่กายสังขารมิใช่ไม่
กำลังเกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ
ของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
นั่นแหละซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและกายสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขาร
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[๖๘] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๗๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
๖. อตีตานาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอดีตและที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๖๙] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดเคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่งจิตนั้น กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและ
วจีสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและ
จิตตสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักเกิด ฯลฯ
วิ. ใช่
[๗๐] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
และจิตตสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักเกิด ฯลฯ
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมโอกาส
[๗๑] อนุ. กายสังขารในภูมิใดเคยเกิด ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๗๒] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน
และตติยฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่วจีสังขารไม่ใช่
จักเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและวจีสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่เคยเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและ
กายสังขารก็เคยเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ กายสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้เข้าปฐมฌาน
ทุติยฌาน ตติยฌาน และบุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ กายสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจิตตสังขารก็จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่กายสังขารไม่เคยเกิด บุคคลผู้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จิตต-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและกายสังขารก็เคยเกิด
[๗๓] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในภูมิที่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ในภูมิ
ที่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจิตตสังขารก็
จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภูมิที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจัก
เกิด แต่วจีสังขารไม่เคยเกิด ในภูมิที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและวจีสังขารก็เคยเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๗๔] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๗๕] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[๗๖] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่เคยเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๗๗] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด วจีสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่มีทั้งวิตกและวิจารในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับ
แห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและวจีสังขาร
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน
และตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่กายสังขารมิใช่
ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจารในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
และวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งด้วยจิตนั้น) บุคคลผู้เข้า
จตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและกายสังขารก็ไม่เคยเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและจิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่กายสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยปัจฉิมจิตในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญ-
สัตตภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและกายสังขารก็ไม่
เคยเกิด
[๗๘] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภูมิที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในภูมิที่ไม่
มีทั้งวิตกและวิจารและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในภูมิที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตต-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคล
ผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตในภูมิที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและวจีสังขารก็
ไม่เคยเกิด
อุปปาทวาร จบ
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร
๑. ปัจจุปปันนวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบัน
อนุโลมบุคคล
[๗๙] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่ง
ลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและวจีสังขารก็กำลังดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งลมอัสสาส-
ปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและกายสังขารก็กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดกำลังดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและกายสังขารก็กำลังดับ
[๘๐] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็กำลัง
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นกำลังดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตต-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและวจีสังขารก็กำลังดับ
อนุโลมโอกาส
[๘๑] อนุ. กายสังขารในภูมิใดกำลังดับ วจีสังขารในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในทุติยฌานและตติยฌาน ในฌานนั้นกายสังขารกำลังดับ แต่วจีสังขาร
ไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๘๒] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด ก็ดี ของบุคคลใดในภูมิใด ก็ดี เหมือนกัน)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปัจจนีกบุคคล
[๘๓] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่ง
จิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจากลม
อัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่กายสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจากลม
อัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิต
ของบุคคลทั้งหมด บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
[๘๔] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตตสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้ง
หมด บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัจจนีกโอกาส
[๘๕] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๘๖] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาท-
ขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด ก็ดี ของบุคคลใดในภูมิใด ก็ดี พึงขยาย
ให้พิสดารเหมือนกัน ในคำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใดในภูมิใด ไม่พึงเพิ่มคำว่า
บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
๒. อตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[๘๗] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดเคยดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็เคยดับ
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยดับ ฯลฯ
วิ. ใช่
(ท่านจำแนกอตีตปุจฉาในอุปปาทวาร เป็นคำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด
และของบุคคลใดในภูมิใด ทั้งอนุโลมและปัจจนีกะฉันใด แม้ในนิโรธวาร ก็พึงจำแนกฉันนั้น
ไม่มีข้อแตกต่างกัน)
๓. อนาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๘๘] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดจักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับ
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดจัก
อุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่า
นั้นจักดับและกายสังขารก็จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๘๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดจักดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดจัก
อุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นจักดับและกายสังขารก็จักดับ
[๘๙] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดจักดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับ
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นจักดับและวจีสังขารก็จักดับ
อนุโลมโอกาส
[๙๐] อนุ. กายสังขารในภูมิใดจักดับ ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๙๑] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ฌานนั้นจักดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและวจีสังขารก็จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและ
กายสังขารก็จักดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลผู้
เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และบุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและกายสังขารก็จักดับ
[๙๒] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ตติยฌานและจตุตถฌาน จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่
วจีสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลผู้เข้าปฐมฌาน บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ และ
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักดับและวจีสังขารก็จักดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๙๓] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้น
ก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใด
จักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้ง
วิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิต
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ
ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานกำลังจุติ กายสังขารของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักดับ แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๙๔] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) วจีสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัจจนีกโอกาส
[๙๕] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่จักดับ ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๙๖] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น)
บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่กายสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตก
และวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่
มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถ-
ฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักดับและกายสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๙๗] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ จิตตสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน
ตติยฌาน และจตุตถฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่
จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[๙๘] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็เคยดับ
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่ง
ลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและกายสังขารก็กำลังดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็เคยดับ
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดเคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและกายสังขารก็
กำลังดับ
[๙๙] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็เคย
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดเคยดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในอุปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
วิตกและวิจาร บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตต-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งวิตก
และวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและวจีสังขารก็กำลังดับ
อนุโลมโอกาส
[๑๐๐] อนุ. กายสังขารในภูมิใดกำลังดับ ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๐๑] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่วจีสังขารไม่เคยดับ ในภังคขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและวจีสังขารก็เคยดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะของ
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจีสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่ง
ลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและกายสังขารก็กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่กายสังขาร
ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยดับและกายสังขารก็กำลังดับ
[๑๐๒] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
วิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับ
ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและ
วจีสังขารก็กำลังดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๑๐๓] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่เคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ดับมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่เคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังดับมีไหม
วิ. ไม่มี
[๑๐๔] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่เคยดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัจจนีกโอกาส
[๑๐๕] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๐๖] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะของ
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่วจีสังขารมิใช่ไม่เคยดับ ในอุปปาท-
ขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน ในภังคขณะแห่ง
จิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ และ
วจีสังขารก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติย-
ฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับ แต่กายสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ
ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน ในภังค-
ขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ บุคคลผู้เข้า
จตุตถฌาน เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับและ
กายสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่
จิตตสังขารมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและ
จิตตสังขารก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๐๗] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๔๙๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
วิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตตสังขาร
มิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและจิตตสังขารก็ไม่เคยดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๑๐๘] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จัก
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่ง
ลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักดับและกายสังขารก็กำลังดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับ
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่ง
ลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักดับและกายสังขารก็กำลังดับ
[๑๐๙] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จัก
ดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นกำลังดับ แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักดับ ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจารของ
บุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและจิตตสังขารก็จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากวิตกและวิจาร บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่ง
วิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นจักดับและวจีสังขารก็กำลังดับ
อนุโลมโอกาส
[๑๑๐] อนุ. กายสังขารในภูมิใดกำลังดับ ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๑๑] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติย-
ฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับ
ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและวจีสังขารก็จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ
ของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจี-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและกายสังขารก็กำลังดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่กายสังขาร
ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักดับและกายสังขารก็กำลังดับ
[๑๑๒] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักดับ ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจารของ
บุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและจิตตสังขารก็จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่วจีสังขารไม่
ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักดับและวจีสังขารก็กำลังดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๑๑๓] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๒ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิต กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ ฯลฯ
วิ. ใช่
[๑๑๔] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้น
จากวิตกและวิจาร บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและ
จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๓ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปัจจนีกโอกาส
[๑๑๕] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๑๖] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะของ
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติย-
ฌาน ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ
บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติย-
ฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่กายสังขารมิใช่จักไม่ดับ
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่
ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๔ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
แห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ
บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตต-
สังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๑๗] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ จิตตสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด และในภังคขณะแห่งจิตซึ่ง
เว้นจากวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตต-
สังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและ
จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิม-
จิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๕ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
๖. อตีตานาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอดีตและที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๑๑๘] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดเคยดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดใน
ลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่
วจีสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและ
วจีสังขารก็จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดจักดับ ฯลฯ
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดเคยดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่
จิตตสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและ
จิตตสังขารก็จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักดับ ฯลฯ
วิ. ใช่
[๑๑๙] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็จักดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่
จิตตสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและ
จิตตสังขารก็จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดจักดับ ฯลฯ
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๖ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมโอกาส
[๑๒๐] อนุ. กายสังขารในภูมิใดเคยดับ ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๒๑] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ วจีสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในฌานนั้นเคยดับ แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับ
บุคคลผู้เข้าปฐมฌาน บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและวจีสังขารก็จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่เคยดับ บุคคลผู้เข้าปฐมฌานและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ และ
กายสังขารก็เคยดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยดับ แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักดับ บุคคลผู้เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน
ตติยฌาน และบุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยดับและจิตตสังขารก็จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่กายสังขารไม่เคยดับ บุคคลผู้เข้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๗ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จิตตสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและกายสังขารก็เคยดับ
[๑๒๒] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในภูมิที่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักดับ ในภูมิที่มีทั้งวิตกและ
วิจารของบุคคลนอกนี้ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและจิตตสังขาร
ก็จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยดับใช่ไหม
วิ. ในภูมิที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักดับ แต่วจีสังขารไม่เคยดับ ในภูมิที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและวจีสังขารก็เคยดับ
ปัจจนีกบุคคล
[๑๒๓] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่เคยดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับ
ใช่ไหม
วิ. เคยดับ
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
ดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
ดับใช่ไหม
วิ. เคยดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๘ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๑๒๔] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักดับมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับ
ใช่ไหม
วิ. เคยดับ
ปัจจนีกโอกาส
[๑๒๕] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่เคยดับ ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๒๖] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ วจีสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับ แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มี
ทั้งวิตกและวิจารในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิม-
จิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่กายสังขารมิใช่ไม่
เคยดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจารในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน
และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
ดับและกายสังขารก็ไม่เคยดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๐๙ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ จิตตสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าจตุตถฌาน และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับ แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังค-
ขณะแห่งปัจฉิมจิตในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ จิตตสังขารของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่กายสังขารมิใช่ไม่เคยดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและกายสังขารก็ไม่เคยดับ
[๑๒๗] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ จิตตสังขารของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในภูมิที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยดับ แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในภูมิที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจาร บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยดับและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในภูมิที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่วจีสังขารมิใช่ไม่เคยดับ ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตในภูมิที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จิตต-
สังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและวจีสังขารก็ไม่เคยดับ
นิโรธวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๑๐ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร
๑. ปัจจุปปันนวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบัน
อนุโลมบุคคล
[๑๒๘] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็
กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดกำลังดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
[๑๒๙] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
กำลังดับใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดกำลังดับ วจีสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๑๑ }

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๖. สังขารยมก] ๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุโลมโอกาส
[๑๓๐] อนุ. กายสังขารในภูมิใดกำลังเกิด วจีสังขารในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในทุติยฌานและตติยฌาน ในฌานกายสังขารกำลังเกิด แต่วจีสังขาร
ไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
(คำนอกจากที่กล่าวเหมือนกับคำที่ท่านกำหนดว่า ในภูมิใด)
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๓๑] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด ก็ดี ของบุคคลใดในภูมิใด ก็ดี เหมือนกัน)
ปัจจนีกบุคคล
[๑๓๒] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้น
ก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจาร กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง
เกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลมอัสสาสปัสสาสะ
ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่
ใช่กำลังดับ แต่กายสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากลม
อัสสาสปัสสาสะ ในภังคขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจากวิตกและวิจาร บุคคลผู้เข้านิโรธ-
สมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่
กำลังดับและกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๕๑๒ }

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น